ปลัด สธ. ติดตามการดูแลรักษา “พระ-ผู้แสวงบุญ” ในดินแดนพุทธภูมิ จัดส่งทีมแพทย์ 6 รุ่น รวม 60 คน
- สำนักสารนิเทศ
- 16 View
- อ่านต่อ
รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้ปกครอง ให้เพิ่มความระมัดระวังในวันลอยกระทง โดยเฉพาะเด็กที่ชอบลงน้ำเก็บเหรียญในกระทง อาจเกิดตะคริวง่ายเพราะอากาศหนาวเย็นและแช่น้ำนาน เสี่ยงต่อการจมน้ำและเสียชีวิต เผยคืนลอยกระทงปี 2552 เพียงคืนเดียวพบจมน้ำเสียชีวิตสูงถึง 20 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 ใน 4
วันนี้ (19 พฤศจิกายน 2553) ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วันลอยกระทงทุกปีจะมีคนจมน้ำเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งในปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันที่ 21 พฤศจิกายน 2553 จากข้อมูลการเสียชีวิตจากการจมน้ำในวันลอยกระทงของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่พ.ศ.2548-2552 พบว่าในวันลอยกระทงวันเดียวมีคนจมน้ำเสียชีวิต 102 คน เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี 36 คนคิดเป็นร้อยละ 35 ของทุกกลุ่มอายุ สำหรับตัวเลขในปี 2552 เฉพาะวันลอยกระทงวันเดียว มีคนจมน้ำเสียชีวิตสูงถึง 20 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 ใน 4 และยังพบว่าหากวันลอยกระทงตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีคนจมน้ำเสียชีวิตสูงกว่าวันธรรมดาถึง 3 เท่าตัว
ดร.พรรณสิริกล่าวต่อไปว่า ในปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันอาทิตย์ กระทรวงสาธารณสุขจึงมีความห่วงใยประชาชน โดยเฉพาะเด็ก ซึ่งตามสถิติพบเสียชีวิตจากการจมน้ำสูงอยู่แล้ว จึงขอเตือนประชาชนที่จะพาบุตรหลานไปลอยกระทง ให้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น หากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีควรดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำตามลำพัง หรือยืนใกล้บริเวณขอบบ่อ ขอบสระ เพราะอาจพลัดตกลงไปในน้ำได้ และสิ่งที่พบเป็นประจำทุกปีคือจะมีเด็กลงไปเก็บกระทงหรือเก็บเงินในกระทงที่ลอยในน้ำ ผู้ปกครองควรห้ามหรือไม่ปล่อยให้เด็กลงไปเก็บกระทงอย่างเด็ดขาด เพราะเด็กอาจจมน้ำ เนื่องจากเป็นตะคริวเพราะอยู่ในน้ำเป็นเวลานานและสภาพอากาศหนาวเย็นด้วย
สำหรับร้านอาหารหรือสถานบันเทิงที่อยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งส่วนใหญ่จะจัดให้มีท่าน้ำสำหรับให้แขกที่มานั่งในร้านลอยกระทงได้สะดวก ดังนั้นผู้ที่จะลอยกระทงควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากดื่มจนเมาแล้วอาจพลาดตกน้ำได้ หรือผู้ปกครองที่นำบุตรหลานไปนั่งในร้านอาหารด้วยต้องดูแลอย่างใกล้ชิด จากข้อมูลกรมควบคุมโรคพบผู้ที่จมน้ำเสียชีวิต จะมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงถึงร้อยละ 13
ประการสำคัญหากพบคนตกน้ำ ต้องรู้วิธีการช่วยเหลือที่ถูกต้อง ห้ามกระโดดลงไปช่วยอย่างเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้ถูกกอดรัดและจมน้ำเสียชีวิตพร้อมกัน การช่วยเหลือที่ถูกวิธี ให้ตะโกนเรียกให้ผู้ที่ว่ายน้ำเป็นมาช่วยหรือหาอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวมาช่วยเหลือ เช่น ไม้ ถังแกลลอนเปล่า เชือก หรือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวได้ เพื่อความปลอดภัยในเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ จึงขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) กำหนดพื้นที่ที่ชัดเจนเพื่อให้ประชาชนลอยกระทง ควรจัดเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครคอยดูแล พร้อมทั้งเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือที่หาได้ง่ายไว้ในบริเวณดังกล่าวด้วย ดร.พรรณสิริกล่าว