สาธารณสุข จัดโครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวงทรงห่วงใยสุขภาพประชาชนต่อเนื่องปีที่ 2 มุ่งสกัดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ประชาชนอายุ 35 ปีขึ้นไปจำนวน 45 ล้านคนทั่วประเทศ ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เริ่มตุลาคม 53 ธันวาคม 54 หลังดำเนินการปีแรกในปี พ.ศ. 2552 ค้นพบคนป่วยรายใหม่ทั้ง 2 โรคได้ 1 ล้านกว่าคน และสกัดผู้มีความผิดปกติ เสี่ยงจะป่วย ไม่ให้ป่วยได้อีกกว่า 4 ล้านคน

                         วันนี้ (25 พฤศจิกายน 2553) ที่จ.อุบลราชธานี นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมสาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศ จำนวน 200 คน เพื่อมอบนโยบายการรณรงค์สร้างสุขภาพประชาชน ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7รอบ 84พรรษา5 ธันวาคม 2554

นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการสนองน้ำพระราชหฤทัยในหลวงทรงห่วงใยสุขภาพประชาชน เป็นปีที่ 2 ดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 จนถึงธันวาคม 2554 เป้าหมายหลักเพื่อตรวจสุขภาพประชาชนชายหญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งมีจำนวนประมาณ 45 ล้านคนทั่วประเทศ เพื่อค้นหาผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง และสกัดผู้ที่มีความเสี่ยงจะป่วย ไม่ให้กลายเป็นป่วย เนื่องจาก 2 โรคนี้เป็นภัยเงียบของคนไทย มักพบในวัยผู้ใหญ่จนถึงผู้สูงอายุ เมื่อป่วยแล้วจะรักษาไม่หายขาด และมีโรคแทรกเกิดตามมาได้หลายโรค หากไม่เร่งแก้ไขจะทำให้คนไทยอายุสั้นลงเรื่อยๆ จำนวนผู้พิการจะมีมากขึ้น
 
 ขณะนี้มีประชาชนเจ็บป่วยจาก 2 โรคนี้ และเข้ารักษาในโรงพยาบาลปีละกว่า 2 ล้านราย เสียชีวิตรวม 10,188 ราย จึงต้องเร่งรณรงค์ป้องกันการเจ็บป่วยทุกวิถีทาง ในการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวนี้ ได้ให้สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง ร่วมกับ อสม.กว่า 9แสนคน ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และตรวจวัดความดันโลหิตฟรี เพื่อให้การดูแลอย่างต่อเนื่องทั้งคนปกติ คนเสี่ยง คนป่วย โดยในวันที่ 5 ธันวาคม 2553 จะจัดหน่วยตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ออกคัดกรองเบาหวาน ความดันโลหิตสูงอำเภอละ 1 ทีมพร้อมกัน รวม 878 ทีมทั่วประเทศ
 
นายแพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ผลการดำเนินการโครงการในปีแรกคือปี 2552 ระหว่างวันที่ 27พฤศจิกายน5ธันวาคม 2552ประสบผลสำเร็จอย่างสูง โดยตรวจพบผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เสี่ยงป่วยเป็นเบาหวาน 1.7 ล้านคน พบผู้ป่วยเบาหวานรายใหม่ 3.5 แสนคน และรายเก่า 1 ล้าน 7 หมื่นกว่าคน ในจำนวนนี้มีโรคแทรกซ้อน 107,225 คน อันดับ 1 คือตาต้อกระจก รองลงมาคือแผลที่เท้าและไตวาย ส่วนโรคความดันโลหิตสูง พบผู้ป่วยรายใหม่ 6.5 แสนคน รายเก่า 1.5 ล้านคน ในจำนวนนี้มีโรคแทรกซ้อน 93,144 คน อันดับ 1 คือโรคหัวใจ รองลงมาคือเส้นเลือดในสมองตีบหรือแตกและไตวาย โดยตรวจพบผู้มีความดันโลหิตสูงกว่าปกติเสี่ยงป่วยอีก 2.4 ล้านคน และพบผู้ที่ป่วย 2 โรค เป็นทั้งเบาหวานและความดันโลหิตสูง 681,220 คน
 
สำหรับการดูแลสุขภาพประชาชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ จะแบ่งเป็น 4 กลุ่มคือกลุ่มปกติ จะรณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรมถนอมสุขภาพดี เช่นออกกำลังกาย ลดอาหารรสหวาน มัน เค็ม ไม่ดื่มสุราและสูบบุหรี่ กลุ่มที่เสี่ยงป่วยจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรายบุคคล ลดพฤติกรรมเสี่ยง ไม่ให้กลายเป็นคนป่วย ในกลุ่มที่ป่วยแล้วแต่ยังไม่มีโรคแทรกซ้อน จะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน และตรวจค้นหาโรคแทรกซ้อน ส่วนกลุ่มที่ป่วยและมีโรคแทรกซ้อนแล้ว ก็จะได้รับการรักษาและดูแลอย่างใกล้ชิดจากโรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลศูนย์
 
  ***************************************   25 พฤศจิกายน 2553


   
   


View 7       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ