ชี้หากฝ่าฝืน มีโทษปรับ 5 หมื่นบาท ฐานจำหน่ายอาหารไม่ได้มาตรฐาน
วันนี้ (26 มกราคม 2554) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการนำน้ำมันทอดซ้ำมาใช้ว่า เนื่องจากขณะนี้น้ำมันปาล์มราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเกรงว่าผู้จำหน่ายอาหารจะนำน้ำมันที่ใช้ทอดอาหารแล้วไปใช้ทอดซ้ำหลายครั้ง จะเป็นอันตรายกับผู้บริโภค เพราะการนำน้ำมันมาทอดซ้ำหลายครั้ง จะมีสารโพลาร์เป็นซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นระหว่างการทอดอาหารมีฤทธิ์ต่อการกลายพันธุ์คือทำให้เซลล์ดี กลายเป็นเซลล์มะเร็งได้
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า จากการสุ่มตรวจตัวอย่างน้ำมันที่ใช้ทอดอาหาร ในร้านขายอาหารในปี 2553 จำนวนทั้งหมด 4,397 ตัวอย่าง พบมีสารโพลาร์เกิน 294 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 6.69 ของตัวอย่างที่ตรวจทั้งหมด ในช่วงวันที่ 1–14 มกราคม 2554 ได้ตรวจน้ำมันทอดซ้ำในเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 494 ตัวอย่าง พบน้ำมันทอดซ้ำไม่ได้มาตรฐานร้อยละ 5.06 เช่น น้ำมันทอดลูกชิ้น จากตรวจ 58 ตัวอย่าง พบตกมาตรฐาน 3 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 5.18 น้ำมันทอดไก่ตรวจ 108 ตัวอย่าง ตกมาตรฐาน 5 ตัวอย่างคิดเป็นร้อยละ 4.63 น้ำมันทอดปลาตรวจ 41 ตัวอย่าง พบตกมาตรฐาน 1 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 2.44 เป็นต้น
นายจุรินทร์กล่าวต่อไปอีกว่า ผู้ที่จำหน่ายอาหาร ถ้าใช้น้ำมันทอดซ้ำเกิน 2 ครั้ง มีสารโพลาร์เกินมาตรฐาน จะมีความผิดฐานจำหน่ายอาหารไม่ได้มาตรฐาน มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท โดยมาตรฐานน้ำมันทอดซ้ำ จะมีสารโพลาร์ได้ไม่เกินร้อยละ 25 ต่อน้ำหนักน้ำมันที่ใช้ ซึ่งที่ผ่านมาหากพบทำผิดครั้งแรกจะทำการตักเตือน แต่หากพบทำผิดซ้ำจะดำเนินการปรับทันที
สำหรับการนำน้ำมันมาใช้ทอดอาหารซ้ำ ไม่ควรใช้เกิน 2 ครั้ง หลังจากใช้ทอดครั้งแรกแล้วจะต้องกรองกากทิ้งก่อน จึงจะสามารถนำน้ำมันมาใช้ทอดครั้งที่ 2 ได้ และควรทิ้งทันที เพราะจะมีสารโพลาร์สูงเกินมาตรฐาน เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยอาหารประเภททอด ถ้าไม่จำเป็นอย่าใช้น้ำมันสัตว์ เช่นน้ำมันหมู น้ำมันวัว เนื่องจากมีโคเลสเตอรอลสูงมาก สำหรับอาหารประเภทผัด ควรใช้น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก น้ำมันข้าวโพด หรือน้ำมันดอกคำฝอยได้ นายจุรินทร์กล่าว
************************** 26 มกราคม 2554