สาธารณสุข เตือนวัยรุ่นไทยที่ฮิตแฟชั่นต่อขนตาถาวร เสริมเสน่ห์ใบหน้า ตาหวานคมโต หากไม่สะอาดจะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคแทน ทำให้ตาอักเสบและบอดได้ ชี้ไอระเหยของกาวที่ใช้ต่ออาจทำปฏิกิริยาเคมีกับน้ำตา ทำให้เกิดกรดด่าง เป็นอันตรายทำให้ต่อมขนตาฝ่อหยุดการเจริญเติบโตทันทีทันใด ย้ำเตือนผู้ที่ต่อขนตา หากเกิดความเสียหาย อาจถูกฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายได้ หากอยากให้ขนตาสวย แข็งแรง ไม่หลุดล่วง แนะวิธีง่ายๆ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระแสแฟชั่นต่อขนตาถาวรกำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากทำให้ดวงตาหวานคม เพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้า ส่วนมากนิยมทำในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงานและสาวประเภทสอง การนำสิ่งแปลกปลอมวัสดุต่างๆ มาติดที่ขอบตาบนและติดตามเส้นขนตา อยู่ได้นานประมาณ 3 เดือน วิธีการดังกล่าวนับว่าเสี่ยงอันตรายต่อโคนขนตามาก เนื่องจากอาจทำให้เกิดสิ่งสกปรกมาสะสมบริเวณหนังตา และหากดูแลผิดวิธี ดูแลไม่สะอาด จะกลายเป็นที่สะสมเชื้อโรค ที่สำคัญคือเชื้อแบคทีเรีย จะเข้าไปในเยื่อบุตาขาว ก่อเกิดอาการแพ้ระคายเคือง ตาขาวอักเสบ หากเป็นรุนแรง อาจเสี่ยงตาบอดได้
"อยากเตือนให้ผู้ที่ต่อขนตาถาวรแล้ว หรือที่กำลังจะเริ่มต่อ ขอให้ตระหนักถึงอันตราย เนื่องจากขนตามีความสำคัญอย่างมากต่อดวงตา มีหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับดวงตา เช่น ป้องกันฝุ่นผง ฝุ่นละออง และเหงื่อไม่ให้ไหลเข้าสู่ดวงตา นพ.สุพรรณกล่าว
ด้านนายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี กล่าวว่า โดยทั่วไป คนเราจะมีขนตาบนมากกว่าขนตาล่าง โดยขนตาบนมีประมาณ 120 เส้น ส่วนขนตาข้างล่างมีประมาณ 80 เส้น โดยที่โคนขนตาแต่ละเส้นจะมีต่อมไขมันและต่อมเหงื่อช่วยผลิตไขมันและน้ำไปหล่อเลี้ยงในดวงตา เพื่อเคลือบกระจกตาให้ชุ่มชื้น ทำให้ดวงตาไม่แห้ง
นายแพทย์ฐาปนวงศ์กล่าวต่อว่า หากไม่ทะนุถนอมดวงตา โดยเฉพาะขณะที่ทำการต่อขนตาและขณะดึงออก กาวที่ต่อขนตาอาจจะทำให้ขนตาจริงหลุดติดมาด้วย ยิ่งทำบ่อยครั้งจะยิ่งสร้างการกระทบกระเทือนต่อขนตา ขนตาก็จะหลุดร่วง หรือทำให้เปราะบาง หักง่ายและไม่แข็งแรง ส่งผลถึงการทำลายดวงตาของตัวเองได้
นอกจากนี้กาวที่ใช้ต่อขนตา อาจทำให้เกิดอาการแพ้ หรือเกิดการอักเสบระคายเคืองที่ผิว ทำให้เกิดเป็นตุ่มพุพองเล็กๆและเป็นหนองได้ เมื่อไอระเหยของกาวมาผสมกับน้ำตาก็จะเกิดปฏิกิริยาเคมี เหมือนกับถูกน้ำกรดหรือด่าง ทำให้เกิดอาการแสบตา ถึงขั้นอักเสบและทำให้ต่อมขนตาฝ่อ ส่งผลให้ขนตาหยุดงอกใหม่ หรือหยุดการเจริญเติบโตทันที หากมีอาการดังที่กล่าวมานี้ ควรไปพบจักษุแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที
สำหรับผู้ที่ต่อขนตาปลอมถาวรมาแล้ว หากถอดขนตาปลอมแล้วมีขนตาจริงหลุดติดมาด้วย อย่าตกใจหรือวิตกกังวล เพราะขนตาจะงอกขึ้นมาใหม่โดยใช้ระยะเวลา 1 เดือนขึ้นไป โดยหลังจากที่ขนตาหลุดออกมา ควรใช้สบู่ยาล้างหน้าให้สะอาด หรือใช้ยาป้ายตาที่ขอบตา เพื่อล้างสารหรือสิ่งสกปรกที่ตกค้างให้หมดไป อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่รักความสวยงาม ยังมีวิธีการอื่นๆ อีกหลายวิธีที่ทำให้ตาคมโตได้ เช่น การทาอายแชโดว์ (Eyeshadow) การปัดมาสคาร่า (Mascara) ซึ่งเป็นวิธีการครั้งคราว สามารถทำได้วันต่อวัน และทำความสะอาดได้ง่าย มีอันตรายน้อยกว่าการต่อขนตา หรือหากจำเป็นจะต้องต่อขนตาปลอม ควรเลือกร้านที่มาตรฐานมีความสะอาดเป็นหลัก
ทั้งนี้ กรณีที่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรหลีกเลี่ยงการต่อขนตาปลอมถาวร เพราะหากเสียดวงตาเท่ากับเสียโอกาสทั้งชีวิต ขอวอนถึงผู้ที่ให้บริการหรือช่างต่อขนตา ควรมีจิตสำนึก และมนุษยธรรม ที่สำคัญเด็กไม่รู้ถึงวิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้อง ถ้าหากช่างต่อขนตาทำอันตรายให้เกิดผลเสียต่อตาของเด็ก อาจจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกาย ผู้บริการสามารถฟ้องร้องได้
นายแพทย์ฐาปนวงศ์กล่าวต่ออีกว่า ในการบำรุงทะนุถนอมขนตาให้แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่ายมีหลายวิธี เช่น รักษาความสะอาด กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาหารที่มีกรดโฟลิค ซึ่งมีในตับ ผักใบเขียว ยีสต์ซึ่งมีในขนมปังและนมเปรี้ยว และธาตุสังกะสีซึ่งมีในหอยนางรม ตับ เนื้อ ถั่ว ธัญพืช อาหารทะเล และไข่ เป็นต้น
********************************* 30 มกราคม 2554
View 19
30/01/2554
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ