รับคลื่นมหาชนเรือนแสน  เข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัวฯ  บริการฟรี ถึง 7 มีนาคม 2554

วันนี้ (3 มีนาคม 2554) ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี และคณะตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี เพื่อดูความพร้อมการให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนที่จะเดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ในวันที่ 5 มีนาคม 2554 
ดร.พรรณสิริ กล่าวว่า ในวันที่ 5 มีนาคม 2554   คาดว่าจะมีคลื่นมหาชนจากทั่วประเทศเดินทางเข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลิงสรีระสังขารหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ประมาณ 5 แสนคน กระทรวงสาธารณสุขได้วางแผนเตรียมความพร้อมดูแลสุขภาพประชาชน ทั้งเรื่องการรักษาพยาบาล การสุขาภิบาลอาหาร น้ำดื่ม ส้วม และขยะ เพื่อป้องกันโรคติดต่อ โดยได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ มีการระดมทีมแพทย์ พยาบาลกว่า 500 คน            จากรพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น รพ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม รพ.หนองบัวลำภู รพ.อุดรธานี รพ.กรุงเทพ รพ.ขอนแก่น   รพ.บึงโขงหลง จ.หนองคาย รพ.ชุมชน และรพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้งหมดในจังหวัดอุดรธานี โดยตั้งจุดบริการรักษาพยาบาลจุดใหญ่ 9 จุด และมีหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ หน่วยย่อยอีกประมาณ 100 หน่วย เพื่อเข้าไปดูแลทั้งประชาชนและพระภิกษุสงฆ์บริเวณรอบวัด     มีรถพยาบาลฉุกเฉิน พร้อมเครื่องมือแพทย์ครบครันรวมทั้งหมด 20 คัน และได้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้อีก 3 ลำ เพื่อใช้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศหากจำเป็นเร่งด่วน  
ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อว่า เนื่องจากมีคนจำนวนมาก กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งโรงพยาบาลสนาม 1 แห่ง ที่โรงเรียนบ้านตาด อยู่ห่างจากวัดป่าบ้านตาด 1,500 เมตร ภายในโรงพยาบาลจะมีศูนย์บัญชาการกู้ชีพฉุกเฉิน     มีหน่วยกู้ชีพฉุกเฉิน 4 หน่วย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกสาขาพร้อมอุปกรณ์การแพทย์ชั้นสูง มีเตียงรองรับผู้ป่วย 10 เตียง มีแพทย์ประจำการตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้รพ.ศูนย์อุดรธานีเป็นโรงพยาบาลหลักในการรับส่งต่อผู้ป่วยเข้ารักษาตัว ให้การรักษาฟรีทั้งหมด จนถึงวันที่ 7 มีนาคม 2554   ขณะนี้หน่วยแพทย์ทั้งหมดได้เปิดบริการแล้ว ยืนยันทุกหน่วยมีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ประชาชนที่เจ็บป่วยสามารถเข้าใช้บริการได้ตลอดเวลา  
  
ด้านนายแพทย์สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้วางแผนดูแลความสะอาดของอาหารและน้ำดื่ม โดยได้จัดประชุมผู้ปรุงอาหารในโรงทานประมาณ 1,000 คน เพื่อให้ดูแลความสะอาดอาหารได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และดูแลกำจัดขยะ น้ำเสีย และความสะอาดส้วม ซึ่งขณะนี้ทางวัดได้สร้างส้วมเพิ่มเติมอีก 3 เท่าตัว โดยได้นำสารอีเอ็มไปใช้     เพื่อย่อยสลายของเสียได้ดีขึ้น และไม่มีกลิ่นเหม็น ผลการตรวจน้ำดื่มที่ใช้ภายในวัด พบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน      
นายแพทย์สัญชัยกล่าวต่อว่า ประชาชนที่ตั้งใจจะไปร่วมพิธี ขอให้ดูแลสุขภาพตนเองให้พร้อม หากมีโรคประจำตัวให้นำยาติดตัวไปด้วย หลังจากที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่แล้ว หากอยู่ใกล้หน่วยแพทย์จะเป็นการดี ไม่ควรนำเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเข้าไปในงานเนื่องจากอาจป่วยได้ง่าย และควรงดสูบบุหรี่ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากพื้นที่มีประชาชนอยู่อย่างแออัด และขอให้ประชาชนพกน้ำดื่มขวดเล็ก เพื่อดื่มดับกระหายเนื่องจากอากาศจะร้อนมาก และพกอาหารที่บูดเสียยาก เช่น ข้าวเหนียว เนื้อทอด หมูทอด ขนมปัง
***************        3 มีนาคม 2554


   
   


View 6       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ