บ่ายวันนี้ (8 มิถุนายน 2554) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังแถลงข่าวการจัดงานมติชนเฮลท์แคร์ ที่ห้องประชุมอาคารข่าวสด กทม. เกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีมีข่าวการปนเปื้อนเชื้ออี.โคไลในนมว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนที่เป็นทางการ ซึ่งข้อเท็จจริงอาจจะเป็นได้         เพราะเชื้ออี.โคไล จะอยู่ในระบบทางเดินอาหารของคนและสัตว์ เช่น วัว กระบือ จึงมีโอกาส มีความเป็นไปได้ที่อาจจะ ปนเปื้อนมากับนม   โดยเฉพาะในนมพาสเจอร์ไรที่ใช้ความร้อนไม่ถึง 70 องศาเซลเซียส ทำให้เชื้อไม่ตาย   แต่ทั้งหมดจะด่วนสรุปไม่ได้ ต้องรอผลการสอบสวนโรคที่เป็นทางการ และประเทศนั้นๆเป็นผู้ประกาศออกมา ขณะนี้จึงเป็นเพียงการสันนิษฐาน เช่นเดิมสันนิษฐานว่าเชื้อมาจากถั่วงอก แตงกวา เป็นต้น

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยได้มีมาตรการเกี่ยวกับเรื่องนี้ 4 มาตรการที่ได้สั่งการและมีการดำเนินการแล้ว โดยวานนี้(7 มิถุนายน 2554) ได้มีการแจกเอกสารคำแนะนำเรื่องการติดเชื้อแบคทีเรียอี.โคไลชนิดรุนแรง โอ 104 (Enterohaemorrhagic E.coli O104) รวมทั้งคำแนะนำในการป้องกันโรคอุจจาระร่วงจากเชื้ออี.โคไล ซึ่งขณะนี้ได้จัดพิมพ์ทั้งหมดจำนวน 50,000 ฉบับ ได้แจกให้ 13 สายการบินที่เดินทางมาจาก 13 ประเทศในยุโรปเพื่อแจกให้ทั้งคนไทยและต่างชาติบนเครื่องแล้ว
 ส่วนการเฝ้าระวังผัก ผลไม้นำเข้าจากประเทศในยุโรปนั้น   ด่านอาหารและยา ประจำท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ได้เก็บตัวอย่างผัก ผลไม้นำเข้า 2 ชนิด ได้แก่ อโวคาโด และกะหล่ำปลีปม ส่งตรวจวิเคราะห์เชื้ออี.โคไลที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการเพาะเลี้ยงเชื้อ 2 วัน จะทราบผลตรวจอโวคาโดเบื้องต้นในเช้าวันพรุ่งนี้ (9 มิถุนายน 2554) ส่วนกะหล่ำปลีปมจะทราบผลในวันที่ 10 มิถุนายน 2554   โดยหากพบว่าเป็นเชื้ออี.โคไล จะส่งตรวจเพื่อวิเคราะห์ว่าเป็นสายพันธุ์ใด จะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
นายจุรินทร์ กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้กรมการแพทย์ตั้งคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคอุจจาระร่วง 1 ชุด ประมาณ 9 คน เพื่อเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำแก่แพทย์ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วประเทศที่ให้การรักษาผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงจากเชื้ออี.โคไล ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด รวมทั้งเสริมมาตรการด้านการป้องกันและควบคุมโรคให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้จากการประชุมประเมินสถานการณ์ของวอร์รูมกระทรวงสาธารณสุข พบว่า อัตราการติดเชื้อผู้ป่วยรายใหม่ชะลอตัวลง พบผู้ป่วยใน 13 ประเทศเช่นเดิม
   .................................            8 มิถุนายน 2554
 


   
   


View 10    08/06/2554   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ