ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเซียโร่ ชมไทยประสบผลสำเร็จในการจัดการภาวะวิกฤติได้ดี ไม่มีโรคระบาดหลังน้ำท่วม พร้อมเผยแพร่ข้อมูลให้นานาชาติรับรู้ ผ่านทางเว็บไซต์องค์การอนามัยโลกและจะนำประสบการณ์ความสำเร็จของไทยครั้งนี้ เข้าสู่เวทีประชุมเรื่องการจัดการภาวะฉุกเฉินในเดือนมีนาคม 2555  

          วันนี้ (14 ธันวาคม 2554) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังต้อนรับนายแพทย์สำลี เปลี่ยนบางช้าง ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือเซียโร่ (SEARO) ว่า การหารือในวันนี้ ได้เสนอประเด็นความความสำเร็จของไทยในการดูแลสุขภาพประชาชนไทยในช่วงประสบภาวะวิกฤติมหาอุทกภัย 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องศักยภาพของทีมแพทย์และสาธารณสุขที่สามารถจัดการปัญหาได้ดี ประเทศไทยไม่พบโรคระบาดเกิดขึ้นตลอดระยะที่เกิดอุทกภัย เรื่องที่ 2 คือการดูแลสุขภาพประชาชนในโครงการ 30 บาท ที่นานาประเทศคาดหวังหลังจากที่เริ่มนโยบายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าในช่วงที่ประสบภาวะวิกฤติ โครงการนี้สามารถดูแลประชาชนได้อย่างดี โดยได้ฝากผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกฯ เผยแพร่ความสำเร็จนี้ผ่านเวทีโลก สร้างความเชื่อมั่นนานาชาติต่อไป
          สำหรับโครงการ 30 บาทนั้น ที่ผ่านมาสามารถดูแลสุขภาพประชาชนได้ดีก็จะยกคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น โดยจะนำประสบการณ์ช่วงที่เกิดอุทกภัยมาบวกกับจุดบกพร่อง หลักการจัดบริการก็คือประชาชนสามารถรับบริการที่ใดก็ได้ และจะเสริมระบบบริการใกล้บ้าน โดยเฉพาะการจัดคลินิกในชุมชนที่มีขนาดใหญ่ เพื่อลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลใหญ่ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรังลงให้ได้ร้อยละ 50 ซึ่งได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว 
          ด้านนายแพทย์สำลี เปลี่ยนบางช้าง ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า แม้ว่าประเทศไทยจะประสบปัญหาน้ำท่วม ประชาชนได้รับความลำบาก แต่ก็สามารถผ่านอุปสรรคร้ายแรงได้เป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องสำคัญจะต้องช่วยกันพูดก็คือเมื่อมีภาวะฉุกเฉิน เช่นแผ่นดินไหว น้ำท่วม สิ่งที่จะตามมาก็คือโรคระบาด แต่ของประเทศไทยไม่มีโรคระบาด แม้ว่าน้ำจะท่วมเป็นเวลานาน และขณะนี้ไทยได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ถือเป็นความสำเร็จของประเทศไทยที่มีระบบการสาธารณสุขดี  แม้ว่าสถานบริการสาธารณสุขระดับล่าง โรงพยาบาลบางแห่งถูกน้ำท่วม ทำงานไม่ได้ตามปกติก็ตาม แต่งานด้านสาธารณสุข บริการทางการแพทย์ที่ให้ดูแลสุขภาพประชาชน ดูแลอาหารน้ำดื่ม ยา ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นประเด็นใหญ่ที่จะต้องชี้แจงให้ประชาชน ทั้งคนไทยและต่างประเทศได้รับทราบข้อมูล ทั้งผู้ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวหรือลงทุนในไทย ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ติดตามสถานการณ์มาตลอด และจะได้รวบรวมข้อมูลการจัดการในภาวะฉุกเฉินของไทย เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์องค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่องค์การใหญ่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เผยแพร่ทั่วโลกด้วย 
ทั้งนี้ ความสำเร็จที่ทำให้ไทยไม่มีโรคระบาดหลังน้ำท่วม เกิดมาจากการมีระบบเฝ้าระวังโรคที่รวดเร็ว การสอบสวนโรคเมื่อมีรายงานผู้ป่วย และระบบการติดตามผู้ป่วยที่ดีมากของกระทรวงสาธารณสุขไทย ซึ่งจะนำประสบการณ์ของไทยไปเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมระดับภูมิภาคเกี่ยวกับการจัดการในภาวะฉุกเฉิน คาดว่าอาจในเดือนมีนาคม 2555 ที่ประเทศไทย เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค นายแพทย์สำลีกล่าว
 **********************************    14 ธันวาคม 2554


   
   


View 2       ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ