“สธ. – ก.ท่องเที่ยวฯ” เปิดงาน "ท่องเที่ยวสุขภาพดี รวมพล 100 ร้าน มาตรฐานสาธารณสุข ล้านนา R1” ยกระดับเศรษฐกิจสุขภาพเมืองเหนือสู่การท่องเที่ยวสุขภาพระดับโลก
- สำนักสารนิเทศ
- 130 View
- อ่านต่อ
กระทรวงสาธารณสุขพร้อมจับมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกตรวจสถานบริการนวดเพื่อสุขภาพ หากพบมีการขายบริการทางเพศแอบแฝงจะดำเนินคดีอย่างไม่ละเว้น เผยขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างพ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ บังคับสถานประกอบการเพื่อสุขภาพหรือนวดเพื่อสุขภาพ (สปา) ทุกแห่งต้องขึ้นทะเบียนรับอนุญาตจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเท่านั้น หากไม่ผ่านจัดเป็นสปาเถื่อน
จากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย นำคลิปวิดีโอภายในอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ย่านสำโรงใน จ.สมุทรปราการ มาแสดงต่อสื่อมวลชน ว่า มีสถานบริการลักลอบให้หญิงสาวมาค้าประเวณี นอกจากนี้คลิปยังแสดงให้เห็นถึงการลักลอบขายบริการที่ย่านรามอินทรา และถนนเพชรบุรีใกล้กับพรรคเพื่อไทย ขณะนี้มีโสเภณีในประเทศไทยกว่า 1 ล้านคนและใน 1 ล้านคนมี 10 เปอร์เซนต์เป็นโสเภณีเด็ก หรือประมาณ 1 แสนคน โสเภณีเพิ่มมากขึ้นเท่าไร อบายมุขก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อเอดส์ จากสถิติพบว่าผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-39 ปี เป็นกลุ่มที่มีการติดเชื้อเอดส์มากที่สุด 33 เปอร์เซนต์ ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ การค้ามนุษย์ เรื่องนี้รัฐบาลไทยไม่สนใจนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าววันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2555) นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในเรื่องของการป้องกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์จากการขายบริการทางเพศ กระทรวงสาธารณสุข มิได้นิ่งนอนใจ จะดูแลเรื่องดังกล่าว โดยจะร่วมมือกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพบูรณาการการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการเข้าทำการตรวจสอบสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่มีหญิงขายบริการ โดยเฉพาะสปาที่มีบริการนวดเพื่อความงาม นวดผ่อนคลาย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จะต้องไม่มีบริการขายบริการทางเพศแอบแฝงอย่างเด็ดขาด หากพบจะดำเนินการจับกุมดำเนินคดี และปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ดังกล่าวตามกฎหมายโดยไม่ละเว้นใดๆทั้งสิ้น เพื่อให้ผู้รับบริการมั่นใจว่าเมื่อไปใช้บริการแล้ว จะได้บริการที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจริงๆ ไม่เป็นธุรกิจแฝงการค้าประเวณี ซึ่งจะทำให้ประชาชนทั้งคนไทยและต่างชาติเข้าใจผิดได้
ด้านนายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพานิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ปัจจุบัน มีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานและขึ้นทะเบียนจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 1,436 แห่งทั่วประเทศเท่านั้น ซึ่งกรมสบส. ได้ยกร่างพ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพนวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมสวย หรือที่เรียกว่าสปา เสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้เห็นชอบ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะบังคับให้สถานประกอบการเพื่อสุขภาพทุกแห่งต้องผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเท่านั้น หากไม่ผ่านการรับรองจะถือว่าเป็นสถานบริการเพื่อสุขภาพเถื่อนตามกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งวันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบแล้ว โดยต่อไปกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะส่งร่างเข้าสู่ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้ความเห็นชอบ และจะมีผลบังคับใช้ทางกฎหมายทันที หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะทำให้กรมสบส.สามารถจัดระเบียบสถานประกอบการเพื่อสุขภาพได้อย่างชัดเจนตามเจตนารมณ์ในกฎหมายดังกล่าว
************************* 13 กุมภาพันธ์ 2555