องค์การอนามัยโลกเร่งทุกประเทศทั่วโลก รณรงค์กระตุ้นประชาชนร่วมกันดูแลผู้สูงอายุ เนื่องในวันอนามัยโลก 7เมษายน 2555 เผยอีก 38 ปี จำนวนผู้สูงอายุทั่วโลกจะพุ่งถึง 2,000 ล้านคน พบได้ 1 คนในประชากรทุกๆ 4 คน ต้องมีการวางแผนดูแลสุขภาพในระยะยาว โดยกระทรวงสาธารณสุขไทยให้โรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัด เปิดบริการทางด่วนผู้สูงวัย “70 ปี ไม่มีคิว” ทุกจุดบริการ และให้สำรวจผู้สูงอายุทุกหมู่บ้าน ชุมชนทุกแห่ง ตรวจคัดกรองสุขภาพกาย ตรวจภาวะสมองเสื่อม ซึมเศร้า ขึ้นทะเบียนดูแลต่อเนื่องครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในเดือนพฤษภาคม 2555 นี้ อีกทั้งมีนโยบายให้สถานบริการสาธารณสุขเป็นมิตรกับผู้สูงอายุและผู้พิการ
วันนี้ (4 เมษายน 2555) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายวิทยา บุรณศิริรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และผู้บริหารระดับสูงแถลงข่าว เนื่องในวันอนามัยโลกประจำปี 2555 ซึ่งตรงกับวันที่ 7 เมษายนทุกปี ในปีนี้องค์การอนามัยโลก เน้นเรื่องผู้สูงอายุกับสุขภาพ (Ageing and Health) เพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลกได้ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุ โดยเฉพาะด้านสุขภาพ โดยกำหนดคำขวัญว่า“ให้ความรัก พิทักษ์อนามัย ผู้สูงวัยอายุยืน” (Good Health adds life to years )
นายวิทยากล่าวว่า องค์การอนามัยโลก ระบุว่าในศตวรรษที่ 21 นี้ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะเป็นกลุ่มประชากรที่เพิ่มจำนวนรวดเร็วที่สุดระหว่างปีพ.ศ. 2543- 2593 โดยจำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากร้อยละ 11 หรือจำนวน 605 ล้านคน เป็นร้อยละ 22 หรือประมาณ 2,000 ล้านคนใน พ.ศ. 2593 หรือค.ศ.2050 กล่าวง่ายๆว่าในประชากรโลกทุก 4 คน จะพบผู้สูงอายุได้ 1 คน ส่วนประเทศไทย กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็วเช่นกัน เนื่องจากอัตราเจริญพันธุ์ลดลง เด็กเกิดน้อยลง จากอดีตที่หญิงไทย 1 คนจะมีบุตรเฉลี่ย 2.1 คน แต่ขณะนี้หญิงไทย 1 คน มีบุตรเฉลี่ยเพียง 1.5 คน ทำให้โครงสร้างประชากรเสียสมดุล จากการทำสำมะโนประชากรประเทศไทย ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ล่าสุดในปี 2553 ไทยมีผู้สูงอายุจำนวน 8.5 ล้านกว่าคน คิดเป็นร้อยละ 13 ของประชากรที่มีทั้งหมด 65.9 ล้านคน หากอัตราการมีบุตรยังเป็นเช่นนี้ คาดว่าในปี พ.ศ.2593ผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็นร้อยละ 30
นายวิทยา กล่าวต่อว่ารัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ได้จัดเตรียมระบบดูแลเป็นพิเศษ ตามยุทธศาสตร์ 6 ประการดังนี้ 1.ปรับโครงสร้างการบริการให้รองรับผู้สูงอายุรวมทั้งผู้พิการ เช่น ห้องน้ำ ห้องส้วม บันได ทางลาดชัน โดยจัดทำป้ายมองเห็นได้ง่าย 2.จัดระบบบริการผู้สูงอายุแบบเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว ให้โรงพยาบาลเปิดช่องทางด่วนผู้สูงอายุที่อายุ 70 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุที่ป่วยหนัก และช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 3.สนับสนุนให้ผู้สูงวัยมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพตนเอง โดยรวมตัวเป็นชมรม เช่น ชมรมผู้สูงอายุ 4.สนับสนุนให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ในลักษณะจิตอาสา เช่นการดูแลเด็ก 5.จัดสรรงบประมาณสนับสนุนด้านสวัสดิการสังคมแก่ผู้สูงอายุ เช่นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ดูแลผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียว ไม่มีลูกหลาน และ 6.ผลักดันการบูรณาการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนร่วมกันทั้งหน่วยบริการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนเพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและคุณภาพชีวิตดี
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้สถานบริการในสังกัดทุกแห่ง จัดระบบการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการทั้งในสถานบริการและในชุมชน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 เป็นต้นไป โดยให้โรงพยาบาลทุกแห่ง ปรับปรุงอาคารสถานที่ ทั้งห้องน้ำ ทางลาด ที่จอดรถ ให้ผู้สูงอายุใช้ได้อย่างปลอดภัย และให้เปิดช่องบริการทางด่วน “70 ปีไม่มีคิว” ทุกจุดบริการ ทั้งห้องบัตร ห้องตรวจ ห้องยา เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็ว และมีหน่วยบริการพิเศษผู้สูงอายุ ได้แก่บริการให้คำปรึกษา ชมรมผู้สูงอายุ และบริการตรวจประเมินสุขภาพ
ส่วนการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เน้นทำงานเชิงรุก ดูแลทั่วถึง โดยให้สถานบริการทุกแห่ง สำรวจจำนวนผู้สูงอายุทุกหมู่บ้าน ชุมชนทุกแห่ง และให้ตรวจคัดกรองสุขภาพกายประเมินความ สามารถในการทำกิจวัตรประจำวันขั้นพื้นฐานแต่ละคน และตรวจประเมินภาวะซึมเศร้าและภาวะสมองเสื่อม ให้เสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2555 และขึ้นทะเบียนให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อออกติดตามเยี่ยมให้การดูแลต่อเนื่องร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. และจัดหมอใกล้บ้าน ใกล้ใจ มีเจ้าหน้าที่ออกไปดูแลสุขภาพกาย-จิตที่บ้าน (Home Health Care) รวมทั้งจัดช่องทางให้บริการดูแลปรึกษาทางโทรศัพท์กรณีป่วย
ฉุกเฉินและจะจัดบริการสายด่วน 1669 จัดรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลฟรีทั้งหมด
*************************** 4 เมษายน 2555