รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบป้ายส้วมสะอาดให้แก่สนามบินสุวรรณภูมิที่พัฒนาผ่านเกณฑ์มาตรฐานสากลทั้งความสะอาด ปลอดภัยและเพียงพอ แสดงถึงความพร้อมของไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศที่มาใช้สนามบินเฉลี่ยวันละ 1.5 แสนคน ได้มั่นใจในความสะอาด ใช้บริการอย่างมีความสุข พร้อมเล็งพัฒนาส้วมในท่าอากาศยานอีก 5 แห่ง ได้แก่ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ ภูเก็ต

          วันนี้ (15สิงหาคม 2555) นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ณรงค์   สายวงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย   เป็นประธานมอบป้ายส้วมสะอาด ได้มาตรฐานสะอาด ปลอดภัย และมีจำนวนเพียงพอ ให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ 

          นายแพทย์สุรวิทย์ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายพัฒนาส้วมสาธารณะในประเทศให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานแฮส (HAS) คือ สะอาด (Health) ปริมาณเพียงพอ (Accessibility) และความปลอดภัย (Safety) โดยได้มอบหมายให้กรมอนามัยร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาส้วมสาธารณะให้ได้มาตรฐาน ผลการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2548จนถึงล่าสุดนี้ มีส้วมสาธารณะที่ผ่านเกณฑ์แล้วร้อยละ 55สำหรับที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่าได้พัฒนาผ่านตามมาตรฐานสากลครบทั้ง 3 อย่าง คือ 1.ความสะอาดห้องน้ำ 2.ปริมาณเพียงพอต่อผู้โดยสาร และ 3.ความปลอดภัย จึงได้มอบป้ายรับรองเพื่อให้ผู้ใช้บริการซึ่งมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศที่มาใช้สนามบินปีละประมาณ 51 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 1.5 แสนคน ได้ทราบถึงความพร้อมของสนามบินแห่งนี้ และนำไปเผยแพร่ต่อไป
               นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวต่อว่า ห้องน้ำสะอาดเป็นเรื่องที่มีผลดีโดยตรงกับผู้ใช้บริการ เนื่องจาก 1.ไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคไปสู่บุคคลอื่น 2.ผู้ที่ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย สะอาด จะไม่ติดเชื้อจากการมาใช้ห้องสุขาแห่งนี้ 3.ผู้ใช้บริการมีความสุขและสบายใจ และ4.จะเป็นการเผยแพร่ในเรื่องการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการนำรายได้เข้าประเทศด้วย โดยจะพัฒนาและปรับปรุงส้วมในท่าอากาศยานอื่นๆให้บรรลุเป้าหมาย อีก 5แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ และท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการส้วมที่สะอาด เพียงพอ และปลอดภัย
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 1,000 คน ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมื่อปี 2553 พบว่าปัจจัยในการเลือกใช้บริการส้วมสาธารณะ ได้แก่  ด้านความสะอาดของส้วมมีมากถึงร้อยละ 86  ซึ่งตรงกับความต้องการของประชาชนที่ต้องการให้ปรับปรุงความสะอาดและกลิ่นของส้วมสาธารณะมากที่สุด ร้อยละ 77 กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามัย จึงร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนพัฒนาและปรับปรุงส้วมสาธารณะในสถานที่ต่าง ๆ 12ประเภทที่ประชาชนจำเป็นต้องใช้มากที่สุด ได้แก่ สถานที่ราชการ สถานศึกษา โรงพยาบาล ศาสนสถาน ตลาดสด ร้านจำหน่ายอาหาร แหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้า สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ส้วมสาธารณะริมทาง และสถานีขนส่งทางบกและทางอากาศ ซึ่งล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้มอบรางวัลให้กับสถานที่ที่ได้เป็นสุดยอดส้วมแห่งปี 2554 จำนวน 22 แห่ง
******************************* 15 สิงหาคม 2555


   
   


View 10    15/08/2555   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ