สธ.เผย 2 วัน ทีม Thailand EMT ชุดแรก ช่วยผู้ประสบภัย “เมียนมา” 334 ราย ปรับภารกิจ 2 รูปแบบ เน้นความปลอดภัย
- สำนักสารนิเทศ
- 558 View
- อ่านต่อ
รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย เตรียมทำหนังสือถึงแพทยสภาวันที่ 17 เมษายนนี้ เพื่อขอให้ทบทวนปรับปรุงโครงการแพทย์เพิ่มพูนทักษะหรือหมออินเทิร์น ให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน หลังดำเนินการมาเกือบ 20 ปี ยังมีปัญหาแพทย์ไหลออกจากระบบ และกระทบการจัดสรรแพทย์ลงพื้นที่ขาดแคลน
วันนี้ (14 เมษายน 2568) นพ.ภูวเดช สุระโคตร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาขาดแคลนแพทย์ในระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะการจัดสรรแพทย์จบใหม่ ว่า หลังเรียนจบแพทย์และสอบได้ใบประกอบวิชาชีพแล้ว จะเข้าสู่การชดใช้ทุนเป็นเวลา 3 ปี โดยปีแรกจะเป็นแพทย์เพิ่มพูนทักษะ (อินเทิร์น)ซึ่งโครงการแพทย์เพิ่มพูนทักษะนั้น แพทยสภาดำเนินการร่วมกับ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข มาตั้งแต่ปี 2548 และมีการปรับปรุงเมื่อปี 2551 เพื่อให้แพทย์ได้รับการฝึกฝนทักษะตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาจากอาจารย์แพทย์ในโรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 114 แห่ง ที่ได้รับการรับรองให้เป็นแหล่งฝึกแพทย์จากทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ระบบบริการสุขภาพในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ขณะที่สังคมมีความคาดหวังจากระบบสาธารณสุขที่มากขึ้น ประกอบกับกระทรวงสาธารณสุขได้มีการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลเพื่อให้ตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพมากขึ้น จึงควรมีการปรับรูปแบบของการฝึกเพิ่มพูนทักษะแพทย์ใหม่ โดยยังคงมาตรฐานของแพทยสภาและตอบสนองการให้บริการตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขไปพร้อมกัน ที่สำคัญคือ สามารถแก้ไขความขาดแคลนแพทย์ในระบบสาธารณสุขได้อย่างตรงจุด และประชาชนยังได้รับบริการที่ดีมีประสิทธิภาพสูงสุด
“โครงการแพทย์เพิ่มพูนทักษะที่ดำเนินการมากว่า 20 ปี ส่งผลกระทบการจัดสรรแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้ไม่สามารถจัดสรรแพทย์ไปยังพื้นที่ที่ขาดแคลนแพทย์ได้ และยังคงมีปัญหาแพทย์ไหลออกจากระบบอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในวันที่ 17 เมษายนนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะทำหนังสือถึงแพทยสภาเพื่อขอหารือให้ทบทวนปรับปรุงวัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์ของโครงการแพทย์เพิ่มพูนทักษะให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป และตอบสนองกับการแก้ไขปัญหาขาดแคลนแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข โดยอาจให้มีการฝึกเพิ่มพูนทักษะให้เรียบร้อยก่อนเรียนจบและจัดสรรให้หน่วยงานต่างๆ ซึ่งเมื่อกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรแพทย์จบใหม่ไปตามความขาดแคลนของพื้นที่แล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการอบรมเรียนรู้เหมือนกับข้าราชการวิชาชีพอื่นๆ ที่บรรจุใหม่” นพ.ภูวเดชกล่าว
********************************************* 14 เมษายน 2568