นายกรัฐมนตรีประกาศวาระคนอีสาน 20 จังหวัด ต่อสู้โรคมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นต้นเหตุคนอีสานโดยเฉพาะผู้ที่อยู่วัยแรงงานเสียชีวิตปีละประมาณ 28,000 ราย เฉลี่ยชั่วโมงละ3 ราย โดยเร่งรณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประชาชนแบบปูพรมเต็มพื้นที่ ให้เลิกกินปลาน้ำจืดเกล็ดขาวปรุงดิบ เช่นก้อยปลาดิบ ปลาร้าดิบ ปลาส้มดิบ เอ็กซเรย์หาผู้ป่วยใน 5 กลุ่มเสี่ยงเพื่อรักษาตั้งแต่เนิ่นๆในโรงพยาบาล 7 จังหวัด โอกาสหายขาด รอดชีวิตสูงขึ้น ใช้งบ 198 ล้านบาท
วันนี้ ( 18 สิงหาคม 2555 ) ที่หอประชุมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สมชัย นิจพานิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น คณะแพทย์มหาวิยาลัยขอนแก่น แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.จาก 20 จังหวัดภาคอีสานรวม 2,500 คน เพื่อชี้แจงนโยบายและ ยุทธศาสตร์ กำจัดพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งท่อน้ำดี วาระคนอีสาน และเปิดศูนย์ความเป็นเลิศด้านการตรวจรักษามะเร็งท่อน้ำดี ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น
นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวว่า โรคพยาธิใบไม้ตับและโรคมะเร็งท่อน้ำดีเป็นสาเหตุทำให้คนอีสานเสียชีวิตปีละประมาณ 28,000 คน หรือวันละ 76 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 3 คน จัดว่าเป็นปัญหาสำคัญและรุนแรงอย่างมาก ก่อให้เกิดความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากผู้ป่วยมักอยู่ในช่วงอายุ 45-55 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน รัฐบาลโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญและให้ระดมพลังทุกภาคส่วน เร่งจัดการปัญหาถือเป็นวาระเร่งด่วน โดยจัดทำยุทธศาสตร์ กำจัดพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งท่อน้ำดี วาระคนอีสาน เพื่อปกป้องประชาชนในภาคอีสานที่มีประมาณ 21 ล้านคน ให้ปลอดภัย และลดการป่วยการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งท่อน้ำดีให้หมดไปจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รายใดที่พบมีอาการผิดปกติ จะได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็วที่สุด ถือเป็นแบบอย่างของการดูแลสุขภาพประชาชนเชิงรุกและทุกส่วนร่วมช่วยกัน โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ตั้งเป้าลดพยาธิใบไม้ตับให้เหลือร้อย 5 และอัตราตายจากมะเร็งท่อน้ำดีให้เหลือไม่เกิน 20 ต่อแสนประชากรภายในพ.ศ 2559
ทางด้านนายแพทย์สมชัย นิจพานิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว ระยะแรกใช้เวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2555-2556 ประมาณการต้องใช้งบประมาณ 198 ล้านบาท ประกอบด้วยแผนปฏิบัติการ 5 แผนได้แก่1.แผนป้องกันและตรวจคัดกรอง อาทิโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยด้านอาหาร โดยงดกินปลาร้าดิบ ปลาน้ำจืดมีเกล็ดขาวดิบๆสุกๆเช่นก้อยปลาดิบ ปลาส้มดิบ โครงการตรวจคัดกรองความเสี่ยง 2.แผนการตรวจวินิจฉัยและการดูแลรักษา โดยตรวจคัดกรองด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์เพื่อดูความผิดปกติของตับ โครงการผ่าตัดเฉลิมพระเกียรติฯ224ราย 3.แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่ป่วยเป็นมะเร็งแล้ว 4.แผนการวิจัยหาตัวบ่งชี้โรคมะเร็ง 5.แผนงานติดตามและประเมินผล ซึ่งจะมีโครงการพัฒนาหน่วยทะเบียนมะเร็งของโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ทั้ง 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเป็นระบบ
นายแพทย์สมชัย กล่าวต่อว่า ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความเข้าใจ กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งอบรม อสม.ให้มีความรู้เรื่องการป้องกันควบคุมโรคพยาธิใบไม้ตับเพื่อลดตามด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดี เพื่อไปขยายผลให้ความรู้ประชาชนทุกหมู่บ้านแบบปูพรม เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เน้นกินอาหารสุกสะอาด ไม่กินปลาน้ำจืดที่มีเกล็ดขาวดิบๆ ปลาร้าดิบ ซึ่งจะมีพยาธิใบไม้ตับ สาเหตุหลักที่ทำให้เป็นมะเร็งท่อน้ำดีตามมา และตรวจสุขภาพค้นหาผู้ป่วยในกลุ่มที่มีความเสี่ยงโดยเร็วที่สุด 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่เป็นชาวอีสานแต่กำเนิด 2.กลุ่มที่ตรวจพบไข่พยาธิใบไม้ตับในอุจจาระ 3.กลุ่มที่มีถิ่นฐานบ้านเรือนใกล้ริมแม่น้ำ ลำคลอง 4.ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป และ5.ผู้ที่มีประวัติมีญาติพี่น้องเป็นมะเร็งตับ หากพบว่ามีความเสี่ยง จะส่งตัวไปตรวจอัลตราซาวด์และตรวจทางห้องปฏิบัติการที่โรงพยาบาลชุมชน เพื่อวินิจฉัยโรคโดยเร็ว และหากพบผิดปกติ จะส่งต่อไปผ่าตัดรักษาทันที ที่โรงพยาบาลศูนย์ใน 7 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สุรินทร์ สกลนคร อุบลราชธานี และนครราชสีมา
ด้านรองศาสตราจารย์กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ศูนย์วิจัยพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ทำการวิจัยจนกระจ่างชัดว่าการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิดมะเร็งท่อน้ำดีในคนอีสาน มะเร็งชนิดนี้ป้องกันได้โดยต้องเลิกกินปลาน้ำจืดปรุงดิบ และตรวจรักษาให้หายขาดและต้องไม่เป็นซ้ำสอง การวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกเริ่มรวมทั้งการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการลดการสูญเสียชีวิตของชาวอีสานจากมะเร็งชนิดนี้ โดยขณะนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศมะเร็งท่อน้ำดีขึ้น เป็นศูนย์วิจัยพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี เพื่อหาองค์ความรู้ที่ลุ่มลึกในเรื่องดังกล่าว เพื่อถ่ายทอดวิชาการลงสู่ภาคประชาชน เพื่อช่วยให้การแก้ปัญหามะเร็งท่อน้ำดีของชาวอีสานสมบูรณ์ขึ้น รวมทั้งเป็นประโยชน์ในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีเป็นปัญหาสุขภาพร่วมของประชาชนในแถบอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ได้แก่ ลาว กัมพูชาและเวียดนามอีกด้วย
************************************** 18 สิงหาคม 2555
View 12
18/08/2555
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ