ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลผู้ป่วย ติดเชื้อแบคทีเรีย ชนิด สเตรปโตค็อกคัส ซูอิส หลังกินลาบหลู้หมูดิบในงานศพ เกือบ 60 ราย ที่โรงพยาบาลเชียงคำ โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ป่วย 55 ราย ขณะนี้อาการหนัก 3 ราย มีอาการช็อคจากการติดเชื้อในกระแสโลหิต และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เตือนประชาชนให้ระวังการกินอาหารประเภทนี้ อย่ากินดิบเด็ดขาด ต้องปรุงให้สุก 100 เปอร์เซ็นต์จะปลอดภัยที่สุด จากกรณีที่มีข่าว ชาวบ้านหมู่ 5 และ หมู่ 9 ต.ทุ่งกล้วย กิ่ง อ.ภูซาง จ.พะเยา เกิดอาการป่วยทยอยเข้ารับการรักษาตัว จำนวนกว่า 300 คน หลังกินลาบและหลู้หมูดิบในงานศพเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2550 และเสียชีวิต 2 ราย ขณะนี้ยังป่วยและนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงคำ 55 ราย ในจำนวนนี้อาการหนักอยู่ในไอซียู 3 ราย ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานการป่วยตายของชาวบ้านผิดปกติจำนวนมาก ได้มอบหมายให้นายแพทย์ทนงสรรค์ สุทธาธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปดูแลการควบคุมโรคในพื้นที่แล้ว และหามาตรการควบคุมป้องกันโรคนี้ในระยะยาว ในเบื้องต้นคาดว่าการป่วยและเสียชีวิตครั้งนี้ เกิดมาจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า สเตรปโตค็อกคัส ซูอิส จากการกินเนื้อหมูและเลือดหมูดิบ ซึ่งเชื้อดังกล่าวมีอันตราย เกิดการติดเชื้อในกระแสโลหิต เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทำให้เสียชีวิต หรืออาจหูหนวกถาวรได้ กระทรวงสาธารณสุขให้การรักษาฟรีทั้งหมด “ขอเตือนประชาชน หากจะบริโภคเนื้อหมู ต้องปรุงให้สุก อย่ากินดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ อย่างเด็ดขาด เนื่องจากในเนื้อและเลือดหมูดิบ จะมีการปนเปื้อนเชื้อโรค รวมทั้งพยาธิต่างๆ เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ส่วนใหญ่เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายโดยการกิน ติดทางผิวหนัง ทางบาดแผลน้อยมาก วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือต้องปรุงให้สุก 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ชำแหละหรือสัมผัสหมู ควรสวมถุงมือทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ” นายแพทย์ปราชญ์ กล่าว ด้านนายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วจากสำนักระบาดวิทยา 4 คน ลงไปควบคุมโรคร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขตเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา และโรงพยาบาลเชียงคำ แบ่งออกเป็น 2 ทีม ทีมแรกสอบสวนที่โรงพยาบาลเชียงคำ อีก 1 ทีมไปที่หมู่บ้านจุดเกิดเหตุ พบว่าสาเหตุการป่วยและเสียชีวิตครั้งนี้ ทุกรายกินลาบและหลู้หมูดิบ ที่เจ้าภาพในงานศพฆ่าหมูดำที่เลี้ยงไว้มาทำอาหารเลี้ยงแขกเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2550 และอาจจะมีไปร่วมงานแต่งงานในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน หลังจากนั้นเริ่มป่วยเป็นไข้ หนาวสั่น ในจำนวนนี้เสียชีวิตในวันที่ 28 และ 29 เมษายน 2550 รวม 2 ราย ขณะนี้นอนในโรงพยาบาล 55 ราย ทั้งนี้การรักษาผู้ติดเชื้อดังกล่าว สามารถรักษาให้หายได้ โดยให้กินยาเพนนิซิลลินฆ่าเชื้อ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ จึงไม่ต้องกังวล ทางด้านนายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ผลการตรวจเบื้องต้นพบว่า ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตได้รับเชื้อแบคทีเรีย สเตรปโตค็อกคัส ซูอิส จากการกินเนื้อหมูและเลือดหมูดิบ โดยผู้เสียชีวิต 2 รายนั้น เป็นผู้ชำแหละหมูและกินเลือดสดๆ จึงได้รับเชื้อจำนวนมาก เนื่องจากเชื้อจะอยู่ในคอ จมูกและเลือดหมู เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะมีระยะฟักตัวประมาณ 1-3 วันจึงเริ่มป่วย ระยะแรกจะมีไข้สูง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะรุนแรง ปวดตามข้อ ต่อมาเชื้อจะเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยอาจสูญเสียการได้ยินถึงขั้นหูหนวก ในรายที่อาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ สำหรับการควบคุมโรคในหมู่บ้าน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ดำเนินการสำรวจบ้านที่เลี้ยงหมู นอกจากนี้ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจชาวบ้านที่ร่วมรับประทานอาหารในงาน โดยเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยจะติดตามอาการประชาชนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ นายแพทย์ชำนาญ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลเชียงคำ ทั้งหมด 55 ราย อาการหนักอยู่ในห้องไอซียู 3 ราย รายหนึ่งช็อคจากโลหิตเป็นพิษจากการติดเชื้อ อีก 2 รายเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และนอนรักษาตัวในหอผู้ป่วยสามัญอีก 27 ราย นอนสังเกตอาการ 25 ราย และอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนในเชียงราย 1 รายทั้งหมดอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยเมื่อวานนี้มีประชาชนเดินทางมารับการตรวจเพื่อความมั่นใจที่โรงพยาบาลกว่า 500 คน คาดว่าจะควบคุมโรคได้ อย่างไรก็ตามหากประชาชนที่ไปร่วมงานและรับประทานอาหารในงานดังกล่าว มีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ขอให้ไปรับการตรวจรักษาได้ที่โรงพยาบาลเชียงคำหรือโรงพยาบาลใกล้บ้าน โดยในวันนี้ (3 พฤษภาคม 2550) ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และแพทย์จากโรงพยาบาลลำพูน มาร่วมสอบสวนโรค และบรรยายวิชาการให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ในจังหวัดพะเยา เพื่อดูสถานการณ์และผลกระทบของผู้ป่วยในระยะยาวต่อไป ****************************** 3 พฤษภาคม 2550


   
   


View 12    03/05/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ