กระทรวงสาธารณสุขใน 10 ประเทศกลุ่มอาเซียนและจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สานมือร่วมสร้างเครือข่ายทางระบาดวิทยาภาคสนาม เพิ่มความเข้มแข็งป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทั้งโรคเกิดใหม่และ โรคเก่าที่ระบาดซ้ำภายในประเทศและในภูมิภาคเอเชีย   พร้อมรับการเป็นสังคมอาเซียนภายในปี 2558

                วันนี้(28 มกราคม 2556)ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมคณะกรรมการความร่วมมือเครือข่ายด้านฝึกอบรมระบาดวิทยาภาคสนาม ระหว่างประเทศครั้งที่ 3 (The 3rd Steering Committee Meeting of ASEAN+3 Plus Three Field Epidemiology Training Network : FETN) ซึ่งมีผู้บริหารระดับกอง/กรม และผู้อำนวยการโครงการฝึกอบรมระบาดวิทยาภาคสนาม จากกระทรวงสาธารณสุขในกลุ่ม 10 ประเทศอาเซียน บวก 3 ประกอบด้วย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนร์ม่าร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมทั้งผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ องค์การอนามัยโลก ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (US CDC) มูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ (Rockefeller Foundation) ร่วมประชุม 60 คน  เพื่อสร้างเครือข่ายด้านการฝึกอบรมนักระบาดวิทยาภาคสนาม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศภายใต้กรอบข้อตกลงอาเซียน ในการควบคุมป้องกันโรคระบาดที่เกิดขึ้น    ในภูมิภาคไม่ให้ลุกลาม ก่อผลเสียต่อสุขภาพอนามัยและผลกระทบด้านอื่น ๆ   

                นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า อาเซียนบวก 3 จัดเป็นภูมิภาคใหญ่ มีประชากรรวมกันประมาณ 2,500 ล้านคนหรือประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรโลก นอกจากนี้ในปี 2558 หรืออีก 2 ปี จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนซึ่งจะเปิดกว้างทั้งในด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจและด้านสังคม-วัฒนธรรม ซึ่งในการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวก 3 ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปี2553 ได้มีแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนให้มีการสร้างเครือข่ายในการผลิตนักระบาดวิทยา ภาคสนามของภูมิภาคเพื่อสอบสวนหาสาเหตุการระบาดและ ควบคุมป้องกันโรคติดต่อไม่ให้แพร่ระบาดลุกลาม

                 ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขไทย เป็นตัวแทนในการผลักดันให้เกิดเครือข่ายด้านการอบรมระบาดวิทยาภาคสนามในภูมิภาคอาเซียนบวก 3 ขึ้น เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งระบบการควบคุมป้องกันโรคในแต่ละประเทศ และเป็นเครือข่ายควบคุมโรคในภูมิภาคให้สงบโดยเร็ว ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียทั้งการเจ็บป่วยและด้านเศรษฐกิจลงได้ โดยในช่วง 10 ปีมานี้ มีโรคระบาดสำคัญเกิดขึ้นในภูมิภาคอาเซียนหลายโรค เช่น โรคซาร์ส ไข้หวัดนก ไข้หวัดใหญ่ โรคไวรัสนิปาห์ไวรัสที่มาเลเซีย การระบาดของโรคอุจจาระร่วงจากเชื้ออีโคไล 0157 (E coli 0157)    ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเชื้อดังกล่าวระบาดข้ามประเทศได้จากการเดินทาง หรือปนเปื้อนมาอาหารและน้ำ ส่งผลกระทบกับทุกประเทศในภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยขณะนี้มีทีมระบาดวิทยาเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคมากถึง 1,200 ทีม

                ด้านนายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายความร่วมมือด้านฝึกอบรมระบาดวิทยาภาคสนามฯครั้งนี้ เพื่อสร้างศักยภาพของไทย ในการเป็นประเทศผู้นำ (Lead country)ในการพัฒนาด้านระบาดวิทยาและประสานเครือข่ายความร่วมมือสนับสนุนให้ประเทศสมาชิก พัฒนาปรับปรุงศักยภาพด้านระบาดวิทยาภาคสนามของแต่ละประเทศ  สร้างความเข้มแข็งในการควบคุมและป้องกันโรคในประเทศของตนและประเทศข้างเคียง ตลอดจนผลิตและเผยแพร่ผลงานทางวิชาการจากการสอบสวนโรคและเฝ้าระวังโรคเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกัน  

********* 28  มกราคม 2556



   
   


View 12    28/01/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ