มติบอร์ดสปสช.เพิ่มเงินช่วยเหลือแพทย์-พยาบาลที่เสียหายจากการบริการสาธารณสุขตามมาตรา18(4)อัตราที่จ่ายช่วยเหลือผู้ป่วยตามาตรา 41 พร้อมเห็นชอบให้เพิ่มในพื้นที่เสี่ยงภัยในอัตราจ่ายเป็น 2 เท่า มี 3 ระดับ ตั้งแต่สูงสุด 4 แสน กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ 2.4 แสนบาท และบาดเจ็บ 1 แสนบาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังให้แพทย์ พยาบาล ผู้ให้บริการสาธารณสุข
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556 ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่อง “การทบทวนและปรับปรุงอัตราการจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข ตามมาตรา 18(4)”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามีระบบการชดเชยความเสียหายทางการแพทย์ให้ทั้งผู้ให้บริการหรือบุคลากรทางการแพทย์สาธารณสุข และผู้รับบริการหรือประชาชน โดยผู้รับบริการมีมาตรา 41 ชดเชยความเสียหายให้ กับประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อช่วยลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างแพทย์และผู้ป่วยแล้วนั้น สำหรับในส่วนของผู้ให้บริการ ประกอบด้วย แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็มีมาตรา 18(4) ในพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ให้การคุ้มครอง ดูแลเพราะเนื่องจากที่ผ่านมา มีแพทย์-พยาบาล ได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาลผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็ป) ติดเชื้อโรคจากเหตุสุดวิสัย ดังนั้น การมีระบบเยียวยาชดเชยดังกล่าว ก็เพื่อสร้างขวัญกำลังใจที่ดีให้เจ้าหน้าที่ เป็นการสร้างความมั่นใจถึงระบบการปฏิบัติงานสาธารณสุขการเยียวยาและชดเชยรองรับให้ เป็นสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ากับทุกฝ่าย
นายแพทย์ประดิษฐ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาในส่วนของอัตราการจ่ายชดเชยสำหรับประชาชาชนผู้รับบริการนั้น ได้มีการปรับอัตราเพิ่มไปแล้วในวงเงิน 2 เท่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ดังนั้นมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเมื่อวันที่7 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ได้มอบให้ สปสช. เสนอการปรับปรุงข้อบังคับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือสำหรับผู้ให้บริการให้อัตราการจ่ายเท่าเทียมกับข้อบังคับของผู้รับบริการ ซึ่งที่ประชุมได้ มีมติเห็นชอบให้เพิ่มอัตราการจ่ายช่วยเหลือสำหรับผู้ให้บริการเท่ากับผู้รับบริการ และกรณีพื้นที่เสี่ยงภัยจะเพิ่มอัตราจ่ายเป็นสองเท่าของอัตราที่กำหนดเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น กรณี 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นต้น ที่ผ่านมาในกรณีพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่ปี 2547-2555 มีการพิจารณาจ่าย 4 ราย เป็นเงิน 160,000 บาท
นายแพทย์วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า สำหรับการปรับอัตราการจ่ายใหม่เป็นดังนี้ 1.กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพอย่างถาวรหรือเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิตและมีผลกระทบรุนแรงต่อการดำรงชีวิต ข้อบังคับเดิมจ่ายไม่เกิน 200,000 บาท ข้อบังคับใหม่จ่าย 240,000-400,000 บาท 2.สูญเสียอวัยวะหรือพิการที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ข้อบังคับเดิมจ่ายไม่เกิน 120,000 บาท ข้อบังคับใหม่จ่าย 100,000-240,000 บาท และ 3.บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง ข้อบังคับเดิมจ่ายไม่เกิน 50,000 บาท ข้อบังคับใหม่จ่ายไม่เกิน 100,000 บาท หลังจากนี้ สปสช.จะจัดทำร่างข้อบังคับเสนอประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพิจารณาลงนามต่อไป
ทั้งนี้ มีมาตรา 41 ชดเชยความเสียหายให้กับประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อช่วยลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างแพทย์และผู้ป่วย โดยมติดังกล่าวมีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา 1. กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร ให้จ่ายเงินช่วยเหลือได้ ตั้งแต่ 240,000 บาท แต่ไม่เกิน 400,000 บาท 2.กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต ให้จ่ายเงินช่วยเหลือได้ ตั้งแต่ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 240,000 บาท 3.กรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่องให้จ่ายเงินช่วยเหลือได้ไม่เกิน 100,000 บาท
****************** 4 กุมภาพันธ์ 2556