รมช.สาธารณสุข นำทีมผู้บริหารแก้ไขปัญหาสุขภาพชาวใต้ มอบนโยบายการสาธารณสุขชุมชนเชิงรุก โดยอบรม อสม. ร้อยละ 50 เป็นอสม.ผู้เชี่ยวชาญ หรือ อสมช. พร้อมเพิ่มขวัญกำลังใจและสร้างแรงจูงใจบุคลากรสาธารณสุขภาคใต้ ผลักดันให้ได้ตำแหน่งหัวหน้าสถานีอนามัย 7 ทุกแห่ง และเสนอ ก.พ.ทบทวนตำแหน่งสาธารณสุขอำเภอ 8 ด้านบริหารระดับกลาง ในพื้นที่ที่นายอำเภอเป็นระดับ 9
เช้าวันนี้ (23 พฤษภาคม 2550) ที่โรงแรมกรีนเวิลด์ จังหวัดสงขลา นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สุวัจน์ เฑียรทอง รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เปิดประชุมวิชาการพัฒนาวิชาชีพสาธารณสุข ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ประจำปี 2550 มีผู้บริหาร นักวิชาการและบุคลากรสาธารณสุขในภาคใต้ ร่วมประชุมประมาณ 800 คน เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความก้าวหน้าที่ทันสมัย สามารถนำไปประยุกต์สร้างเสริมสุขภาพที่ดีแก่ประชาชนชาวใต้ ตลอดจนรวมพลังและรวมน้ำใจให้กำลังใจชาวใต้ด้วย
นายแพทย์วัลลภ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในภาคใต้เป็นอย่างมาก ตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน มีสถานีอนามัยถูกวางระเบิด และถูกวางเพลิง 19 แห่ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 19 ราย อสม.เสียชีวิต 29 ราย บาดเจ็บ 9 ราย แม้สถานการณ์ยังไม่สงบ แต่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขไม่ทอดทิ้งประชาชน ยังคงให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ได้มีการสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ รถพยาบาล โทรทัศน์วงจรปิด ก่อสร้างรั้ว จ้างยามรักษาความปลอดภัย และรถรับส่งเจ้าหน้าที่ เพื่อพัฒนาการจัดบริการและการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในปีนี้ได้รับอนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินงานแก้ปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มขึ้นมาก ได้มอบนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เน้นให้บริการสุขภาพที่ดีโดยไม่แบ่งแยกชนชั้น ทั้งการรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรค โดยการตั้งรับในสถานบริการและรุกเข้าไปให้บริการในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างเหมาะสม
นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อว่า สำหรับความก้าวหน้าของบุคลากร ได้กำหนดตำแหน่งหัวหน้าสถานีอนามัยเป็นระดับ 7 แล้ว 124 แห่ง จากสถานีอนามัย 320 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 39 และจะหาตำแหน่งว่างยุบรวมให้สามารถกำหนดเป็นหัวหน้าสถานีอนามัยระดับ 7 ได้ทุกแห่ง นอกจากนี้จะเสนอ ก.พ.เพื่อขออนุมัติกำหนดนำร่อง ตำแหน่งสาธารณสุขอำเภอเป็นระดับ 8 บก. (บริหารระดับกลาง) ในพื้นที่ที่นายอำเภอเป็นระดับ 9 และผลักดันให้เป็นระดับ 8 ว. ทุกอำเภอในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในพื้นที่เฉพาะ
งานที่สำคัญอีกงานหนึ่งที่ต้องเร่งพัฒนาคือ อสม. ซึ่งมีประมาณ 8 แสนคนทั่วประเทศ ในปีนี้จะอบรมเพิ่มพูนความรู้ความสามารถให้ได้ร้อยละ 50 แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มแรกเพิ่มพูนด้านสุขภาพอนามัย กลุ่มที่ 2 พัฒนาเป็นอสม.ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน สุขภาพจิต และกลุ่มสุดท้าย พัฒนาให้เป็นอสม. ผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถร่วมปฏิบัติงานในสถานีอนามัยได้ โดยจะพิจารณาหาค่าตอบแทนให้อสม. เหล่านี้ด้วย
********23 พฤษภาคม 2550
View 13
23/05/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ