สาธารณสุขทุ่มงบเกือบ 200 ล้านบาท ตั้งหน่วยตรวจเชื้อโรคมาลาเรียและรักษาฟรีในชุมชน 30 จังหวัดชายแดน จำนวน 800 แห่ง ชี้ในรอบ 3 เดือนปีนี้พบผู้ป่วยคนไทยและต่างชาติ แล้วกว่า 8,000 ราย จังหวัดยะลา แซงขึ้นมาเป็นอันดับที่สองของประเทศ รองจากตาก แพทย์ไม่แนะกินยาป้องกัน เพราะมีผลเสียมากกว่าผลดี นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้ดำเนินงานป้องกันและควบคุมไข้มาลาเรียมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์ไข้มาลาเรียโดยรวมในประเทศมีแนวโน้มลดลง แต่ในรอบ 2 ปี โรคมาลาเรียมีแนวโน้มการระบาดเพิ่มสูงขึ้น ในปี 2549 มีผู้ป่วยโรคมาลาเรียทั้งหมด 63,276 ราย เป็นคนไทย 27,765 ราย และต่างชาติที่เข้ามาใช้แรงงาน 35,511ราย โดยมีการระบาดรุนแรงมากขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ยะลา นราธิวาส สงขลา และปัตตานี เนื่องมาจากความไม่สงบในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปควบคุมโรคในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้การแพร่ระบาดจึงแพร่กระจายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ สำหรับสถานการณ์โรคมาลาเรียในรอบ 3 เดือนแรกของ ปี 2550 ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2550 พบผู้ป่วยทั้งหมด 8,567 ราย เป็นชาวไทย 4,718 ราย ต่างชาติ 3,849 ราย พื้นที่ที่พบผู้ป่วยไทยมากที่สุด 10 จังหวัดอันดับ 1 ได้แก่ ตาก 958 ราย รองลงมาได้แก่ ยะลา 830 ราย สงขลา 587 ราย แม่ฮ่องสอน 304 ราย จันทบุรี 281 ราย นราธิวาส 208ราย อุบลราชธานี 158 ราย ระนอง 121 ราย ชุมพร 115 ราย และกาญจนบุรี 114 ราย ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรีย กระทรวงสาธารณสุขได้รับงบสนับสนุนจากกองทุนโลกเพื่อการแก้ไขโรคเอดส์ มาลาเรียและวัณโรคจำนวน 200 ล้านบาท โดยเน้นในพื้นที่ชายแดน 30 จังหวัด ซึ่งพบผู้ป่วยได้กว่าร้อยละ 80 ของผู้ป่วยทั้งหมด มากที่สุดที่ชายแดนพม่า ในปี้นี้จะตั้งคลินิกมาลาเรียในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 300 แห่ง จากเดิมซึ่งมีอยู่แล้วกว่า 500 แห่ง ซึ่งจะมีมุ้งชุบสารเคมี หรือสารเคมีกำจัดยุงก้นปล่องให้บริการ พร้อมเอกสารคำแนะนำการป้องกันด้วยภาษาท้องถิ่น ส่วนที่จังหวัดยะลา นราธิวาส ปัตตานี และสงขลา จะเพิ่มหน่วยมาลาเรียในชุมชนเพิ่มขึ้นอีก โดยหน่วยดังกล่าวสามารถตรวจเลือดหาเชื้อ รู้ผลภายใน 30 นาที และให้การรักษาฟรีตลอด 24 ชั่วโมง นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มาลาเรีย อาจมีเชื้อในร่างกายแต่ไม่มีอาการเจ็บป่วยก็ได้ กลุ่มนี้จะทำให้โรคแพร่ในหมู่บ้านได้ จึงควรนอนในมุ้ง ป้องกันไม่ให้ยุงก้นปล่องกัด หากมีไข้ควรไปเจาะเลือดตรวจที่คลินิกมาลาเรียที่อยู่ใกล้บ้านทันที หากพบเชื้อจะได้กินยารักษาให้หายขาดโดยเร็ว จะสามารถตัดวงจรและลดจำนวนผู้แพร่เชื้อโรคได้มาก โดยกระทรวงสาธารณสุขให้บริการฟรี นายแพทย์ปราชญ์กล่าวต่อว่า ประชาชนที่ป่วยมีไข้สูงและมีประวัติเดินทางกลับจากพื้นที่ป่าเขา หรือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใน 15-30 วัน ขอให้นึกถึงโรคนี้ด้วย อย่าซื้อยารักษาเอง เพราะอาจได้ยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาต่ำ หรืออาจจะได้รับยาปลอมแทน ทำให้ถึงตายได้ ควรรีบไปพบแพทย์และแจ้งประวัติให้แพทย์ที่รักษาทราบ เพื่อตรวจหาเชื้อมาลาเรีย และรับยาที่มีประสิทธิภาพสูง โรคนี้หากได้รับการรักษาโดยเร็ว ทันทีที่มีอาการ มีโอกาสหาย100เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้ารักษาช้าจะมีโอกาสเสียชีวิตได้สูง และไม่แนะนำให้กินยาป้องกันมาลาเรีย เนื่องจากยาไม่สามารถป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ และส่งผลเสียเพราะจะทำให้ผู้ที่กินยา เกิดการวางใจว่ากินยาป้องกันแล้วจะไม่ป่วย นอกจากนี้ยังทำให้การรวินิจฉัยโรคผิดพลาด ทำให้เสียชีวิตและทำให้เชื้อดื้อยาได้ *********************** 10 มิถุนายน 2550


   
   


View 5    10/06/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ