สาธารณสุขร่วมกับศูนย์เอราวัณ กทม. สภากาชาด วชิรพยาบาล รพ.รามาธิบดี รพ.พระมงกุฎเกล้า    วางแผนระบบการดูแลผู้ชุมนุมครั้งใหญ่ในวันที่ 9 ธันวาคม 2556 ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ในส่วนกระทรวงสาธารณสุขได้จัดทีมแพทย์ดูแลโซนรับผิดชอบ 30 ทีม และสำรองจากต่างจังหวัดอีก 10 ทีมเสริมหากสถานการณ์เปลี่ยน
 
          วันนี้ ( 8 ธันวาคม 2556 ) นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุขส่วนหน้า กรณีชุมนุมการเมือง กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลสงฆ์ กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมประชุมกับศูนย์เอราวัณ กทม. วชิรพยาบาล สภากาชาด  รพ.รามาธิบดี  รพ.พระมงกุฎเกล้า และมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง มูลนิธิร่วมกตัญญู มีรองผู้ว่าราชการกทม.เป็นประธาน  เพื่อวางแผนการดูแลการชุมนุมครั้งใหญ่ในพื้นที่กทม.ทั้งหมดในวันที่ 9 ธันวาคม 2556 มีการปรับแผนการจัดบริการใหม่ ซึ่งเดิมเคยแบ่งเป็น 4 โซน จะปรับมาเป็น 3 โซน โดยยึดบริเวณทำเนียบรัฐบาลเป็นจุดศูนย์กลาง และกำหนดพื้นที่ในการลำเลียงผู้ป่วยออกจากพื้นที่ชุมนุม เพื่อให้เกิดความปลอดภัยที่สุด ซึ่งคาดว่ากทม.จะการประกาศใช้แผนในเย็นวันนี้ 
 
          นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า ในส่วนทีมของกระทรวงสาธารณสุข คือโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ ซึ่งมีพื้นที่ดูแลรับผิดชอบเดิมอยู่ใกล้เคียงกับทำเนียบรัฐบาลอยู่แล้ว คือตลอดแนวบริเวณถนนพระราม 5 กับเส้นทางเรียบคลองผดุงกรุงเกษมลงมา ได้ปรับทีมปฏิบัติการการแพทย์ชั้นสูงที่มีแพทย์ประจำการหรือเรียกว่าทีมเอแอลเอส (ALS) เดิมมีทีมกรมการแพทย์ 6 ทีมจากรพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน และรพ.นพรัตนราชธานี แห่งละ 2 ทีม จะเพิ่มทีมของรพ.รามาธิบดีและรพ.พระมงกุฎเกล้าอีกแห่งละ 2 ทีม รวมเป็น 10 ทีม โดยทำงานร่วมกับทีมของมูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ซึ่งเป็นทีมกู้ชีพระดับพื้นฐานหรือบีแอลเอส (BLS) ซึ่งบุคลากรผ่านการอบรมเป็นมืออาชีพทั้งหมด และมีความพร้อม จำนวนอีก 20 ทีม รวม 30 ทีม และหากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงได้สำรองทีมแพทย์ชั้นสูงจาก 5 จังหวัดคือ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม อีก 10 ทีม เข้ามาเสริมอีกทันที
 
          สำหรับจุดที่จะส่งทีมปฏิบัติการเข้าไปประจำ จะมีการปรับพื้นที่ให้สอดคล้องกับการชุมนุม แต่จุดที่วางไว้หลักๆ เพื่อลำเลียงผู้ป่วยจากพื้นที่ชุมนุมไปโรงพยาบาลอื่นๆ คือจุดบริเวณขึ้นทางด่วนยมราช เพราะสามารถเดินทางไปโรงพยาบาลอื่นๆ ได้สะดวก คล่องตัว และจะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ หากมีเหตุรุนแรงก็จะมีการประสานงานกับศูนย์เอราวัณ ศูนย์นเรนทร โรงพยาบาลราชวิถี ในการส่งทีมแพทย์ไปรับผู้ป่วยฉุกเฉินที่เกิดเหตุ 
 
          นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า การชุมนุมในวันพรุ่งนี้ หากไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ ก็จะเป็นไปตามระบบแพทย์ฉุกเฉินในระบบปกติทั่วไป ประชาชนสามารถโทรแจ้งเหตุทางสายด่วนฉุกเฉิน 2 หมายเลข คือที่ศูนย์เอราวัณ หมายเลข 1646 และที่ศูนย์นเรนทร กระทรวงสาธารณสุข หมายเลข 1669 ซึ่งในพื้นที่ชุมนุมจะมีมูลนิธิคอยประสานงานกับกลุ่มมวลชนอยู่แล้วเพื่อขอเปิดทางลำเลียงผู้ป่วยออกมา แต่ในกรณีที่เหตุปะทะเกิดขึ้นและมีผู้บาดเจ็บ จะมีการประเมินปรับบริการตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับแผนและปรับจุดบริการ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมไว้แล้ว ทั้งนี้ตลอดวันที่ 7 ธันวาคมจนถึงเช้าวันนี้เวลา 8.00 น. มีเหตุการณ์เกิดขึ้น 1 เหตุการณ์ที่หลักสี่ ไม่มีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม โดยผู้บาดเจ็บเดิมที่นอนรักษาในโรงพยาบาลจำนวน 25 ราย ในวันนี้เหลือ 18 ราย ทุกรายอาการดีขึ้น        
       
 
*******************************      8 ธันวาคม 2556


   
   


View 13    08/12/2556   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ