รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยแพทย์ที่จะก้าวมาเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลยุคปัจจุบัน นอกจากมีประสบการณ์ ความรู้ด้านการบริหารและความเป็นผู้นำแล้ว ต้องมีคุณสมบัติสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ มีความสุจริต มีจิตอาสา มองการแพทย์และสาธารณสุขกว้างไกลไม่เฉพาะแต่ในรั้วโรงพยาบาล และประสานได้สิบทิศ ซึ่งจะช่วยให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุด เช้าวันนี้ (16 กรกฎาคม 2550) ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรพัฒนารองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป ประจำปี 2550 เพื่อเสริมทักษะ ความรู้ด้านการบริหาร ให้กับแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการ จากโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป 93 แห่งทั่วประเทศ นายแพทย์มงคล กล่าวว่า โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป จัดเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนในการบริหารจัดการ เพราะนอกจากจะมีบุคลากรผู้ปฏิบัติงานหลากหลายสาขาวิชาชีพ มีผู้รับบริการในแต่ละวันมากกว่า 1,000 คน บางแห่งยังเป็นแหล่งฝึกอบรมของบุคลากรสาธารณสุข รวมทั้งเป็นที่ศึกษาดูงานของหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศ การบริหารโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ ผู้บริหารจึงต้องมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ทั้งความรู้ ความสามารถ ทักษะในการบริหาร ทัศนคติ ความพร้อมที่จะเสียสละและทุ่มเทในการบริหารงาน รวมทั้งมีความเป็นผู้นำ เพื่อสร้างความร่วมมือของบุคลากรทุกคนในองค์กร นายแพทย์มงคล กล่าวต่อว่า ผู้ที่จะก้าวเข้ามาเป็นผู้บริหารโรงพยาบาล จะต้องรู้จักข้อมูลของบุคลากรโรงพยาบาลในทุกด้าน เพื่อให้การทำงานในหน้าที่ต่างๆ ดำเนินไปได้ด้วยดีและเป็นระบบ จึงควรเป็นผู้ที่ผ่านประสบการณ์การทำงานในโรงพยาบาลมาเป็นเวลานานพอสมควร อาทิ เป็นแพทย์ในสาขาต่างๆ เป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม กลุ่มงานด้านตติยภูมิ เป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ หรือเป็นกรรมการงานสำคัญของโรงพยาบาล เป็นต้น นอกจากนี้ ควรผ่านการอบรมหลักสูตรการบริหารงานโรงพยาบาล นักบริหารการแพทย์และสาธารณสุขระดับสูง หรือสำเร็จการศึกษาต่อเนื่องทางด้านการบริหาร เพื่อให้มีความรู้ ทักษะและ เจตคติ ในการบริหารโรงพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีคุณลักษณะของผู้นำที่ดี ได้แก่ มีปัญญา จริงใจ มีมนุษยสัมพันธ์ มีการตัดสินใจที่ดี และมีภาวะผู้นำเชิงวิสัยทัศน์ ซึ่งจะช่วยให้การบริหารองค์กรประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบันที่สภาพเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อสภาวะสุขภาพของประชาชน และการจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข การเฟ้นหาคนที่จะมาเป็นผู้บริหารโรงพยาบาล นอกจากคุณสมบัติด้านประสบการณ์การทำงานโรงพยาบาล วุฒิภาวะ ความรู้ด้านการบริหาร ตลอดจนคุณลักษณะของผู้นำแล้ว ยังต้องมีคุณสมบัติสำคัญยิ่งอีก 4 ประการ คือ 1.เป็นผู้มีจิตอาสา เสียสละ มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียงกับรายได้ที่รัฐจัดให้ 2.มีความสุจริต ไม่มีประวัติการทำงานโดยทุจริตเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป 3.มีจิตจดจ่อต่อความสุขของสาธารณะ ไม่เฉพาะแต่ในรั้วโรงพยาบาล แต่ต้องมองการแพทย์และการสาธารณสุขในวงกว้าง เชื่อมต่อโรงพยาบาลกับชุมชนและท้องถิ่น และประการสุดท้ายคือ เป็นผู้ประสานสิบทิศ คือสามารถประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาคราชการ องค์กรท้องถิ่น ตลอดจนองค์กรเอกชน ได้อย่างดี ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า การบริหารโรงพยาบาลจะเกิดประโยชน์แก่สุขภาพประชาชนโดยรวมสูงสุด นายแพทย์มงคล กล่าวในตอนท้าย **********16 กรกฎาคม 2550


   
   


View 5    16/07/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ