วันนี้ (18 กรกฎาคม 2550) นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางติดตามการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของรัฐบาล ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ จากนายประชา จิตสุทธิผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาที่ศาลากลางจังหวัด นายแพทย์มงคล กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้ติดตามตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชน และรับฟังปัญหาอุปสรรคการทำโครงการตามยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข ว่ามีปัญหาใดบ้าง เพื่อรับไปแก้ไขปรับปรุงในระดับนโยบาย ให้สามารถปฏิบัติได้จริงและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่มากที่สุด ซึ่งหัวใจหลักของยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขนี้ มุ่งเน้นให้ชุมชนเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน โดยรัฐเป็นฝ่ายจัดสรรงบประมาณสนับสนุน เปรียบเสมือนเป็นน้ำมันหล่อลื่น ในงวดแรกเป็นเงิน 5,000 ล้านบาท โดยใช้แผนของชุมชนเองเป็นเครื่องมือดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการพัฒนาและสร้างโอกาสให้ชุมชน ด้านการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน ด้านการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส และด้านการจัดบริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน เพื่อให้สังคมไทยมีความเข้มแข็ง พึ่งพาตัวเอง พ้นจากความยากจน ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาสังคม รวมทั้งปัญหายาเสพติดได้ด้วย สำหรับจังหวัดนครราชสีมา มี 3,712 หมู่บ้าน 3,801 ชุมชน ประชาชน 2 ล้านกว่าคน มีแผนพัฒนาชุมชนภายใต้ยุทธศาสตร์นี้ทั้งหมด 1,891 โครงการ ได้รับงบประมาณ 94 ล้านบาท ประกอบด้วยแผนงานด้านเศรษฐกิจพอเพียง 870 โครงการ เช่น โครงการเกษตรยังชีพ โครงการพัฒนาคุณภาพข้าว การส่งเสริมข้าวพันธุ์ดี โครงการศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เพราะส่วนใหญ่ประชาชนมีอาชีพการเกษตร งบประมาณ 48 ล้านบาทเศษ แผนงานด้านการพัฒนาและการสร้างโอกาส 704 โครงการ เช่น โครงการส่งเสริมการทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ งบ 28 ล้านบาทเศษ แผนงานฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของชุมชน 159 โครงการ เช่น โครงการปลูกป่าชุมชน การดูแลไฟป่า งบ 10 ล้านบาทเศษ แผนงานสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุในชุมชน 34 โครงการ งบประมาณ 1 ล้านบาทเศษ และแผนงานบริการพื้นฐานในชุมชน 124 โครงการ เช่นการฝึกอบรมอาชีพ งบประมาณเกือบ 6 ล้านบาท จากการรับฟังการดำเนินงานของจังหวัด สามารถบูรณาการโครงการต่างๆ เข้ากับแผนของจังหวัดได้เป็นอย่างดี น่าชื่นชมมากและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่พื้นที่อื่นๆ มั่นใจว่าจะเกิดความยั่งยืนในการพัฒนา เพราะหากชาวบ้านและชุมชนต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมามีความตื่นตัวที่จะทำแผนพัฒนาแก้ปัญหาของชุมชนได้เอง จุดนี้จะเป็นฐานใหญ่ในการพัฒนาชุมชนต่อยอดในอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเป็นฝ่ายให้การสนับสนุน และส่งเสริมให้ประชาชนได้ใช้ภูมิปัญญาแก้ปัญหา ไม่ใช่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายดำเนินการเองตามแผนที่กำหนดจากส่วนกลาง เป็นบทบาทที่รัฐบาลอยากเห็นมากที่สุด เพราะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด หากทุกพื้นที่ดำเนินการในลักษณะนี้ มั่นใจว่าสังคมไทยจะเกิดความร่มเย็น ประชาชนมีความกินดีอยู่ดี บนพื้นฐานแห่งความพอเพียงได้แน่นอน นายแพทย์มงคลกล่าว ***************************** 18 กรกฎาคม 2550


   
   


View 5    18/07/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ