ผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลก ชมอสม.ไทยเยี่ยม เป็นหนึ่งเดียวในโลก ที่จะพิชิตโรคเรื้อรังสำเร็จ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยองค์การอนามัยโลกชมฝีมืออสม.ไทย เป็นพลังอาสาจากชาวบ้านหนึ่งเดียวในโลก ไม่มีประเทศใดเหมือน เชื่อมั่นไทยจะควบคุมโรคเรื้อรัง ที่กำลังเป็นภัยเงียบทางสุขภาพได้สำเร็จ พร้อมมอบภารกิจสำคัญให้อสม.เป็นกระบอกเสียง ชักชวนชาวบ้านไปใช้สิทธิ์ลงประชามติ 19 สิงหาคมนี้ นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมการอบรมฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพอสม. กิ่ง อ.โกสัมพีนคร และ อ.เมือง จังหวัดกำแพงเพชร รวม 550 คน เมื่อเช้าวันนี้ (25 กรกฎาคม 2550) ว่า การอบรม อสม.ครั้งนี้มีความสำคัญมาก ในการแก้ไขโรคเรื้อรังที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญ ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและมะเร็ง ซึ่งทำให้คนไทยเสียชีวิตปีละกว่า 50,000 คน ป่วยกว่า 10 ล้านคน ทั้งนี้ จะทำการรณรงค์ครั้งใหญ่ของประเทศ เพื่อแก้ไขโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง โดยมี อสม. ทั่วประเทศกว่า 8 แสนคน เป็นพลังภาคประชาชนชน ในการตรวจวัดความผิดปกติของประชาชนทุกหมู่บ้าน ในปลายเดือนสิงหาคมนี้ “ขณะนี้ องค์การอนามัยโลกกำลังเร่งหาวิธีการต่อสู้กับโรคเรื้อรังดังกล่าวเช่นกัน โดยในเอเชียได้นำร่องแก้ปัญหาใน 3 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย และไทย เหตุที่เลือกไทยเพราะเห็นศักยภาพของ อสม. ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก ได้เดินทางไปดูหลายๆ แห่งทั่วโลก ยังไม่เห็นชาวบ้านประเทศใดทำงานได้เหมือนอสม.ของไทย และหลายประเทศอยากพัฒนาอสม.เหมือนไทยแต่ไม่สามารถทำได้ จึงเชื่อมั่นว่าไทยจะทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ” นายแพทย์วัลลภกล่าว นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อว่า เนื่องจากอสม. เป็นบุคลากรสาธารณสุขที่อยู่ในพื้นที่ เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับนับถือจากชาวบ้านอย่างดี หลายหน่วยงานให้การยอมรับ จึงได้มอบหมายภารกิจสำคัญเป็นกรณีพิเศษอีกเรื่องหนึ่ง คือการเสริมสร้างประชาธิปไตยของประเทศชาติ โดยการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 แก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งมีคนละ 15 หลังคาเรือน เพื่อให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ในการออกเสียงลงประชามติในวันที่ 19 สิงหาคม 2550 นี้ให้มากที่สุด ด้านนายแพทย์ณัฐพร วงษ์ศุทธิภากร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า การดำเนินงานของ อสม.กำแพงเพชร จะเน้นการประสานงานกับหน่วยงานอื่น ทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน เพื่อสร้างแนวร่วมให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่อง ครอบคลุม และประสบความสำเร็จ โดยในปีนี้มี อสม.ที่ได้รับรางวัลดีเด่นระดับเขต 1 ราย ได้แก่ นายเวคิน วัชรเวโรจน์ สาขาสุขภาพจิตชุมชน โดยเป็นแกนนำสุขภาพจิตของบ้านโพธิ์พัฒนา ได้ค้นหาและดูแลผู้ป่วยสุขภาพจิตในหมู่บ้าน 3 ราย จนสามารถดูแลตนเองและเข้าร่วมกิจกรรมของหมู่บ้านได้ นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกอบต.คณฑีอีกด้วย จึงประสานขอสนับสนุนงบประมาณจาก อบต. มาใช้ในกิจกรรมด้านสาธารณสุขได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับ อสม.ดีเด่นระดับจังหวัด 1 ราย เป็นสาขาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร ได้แก่ นางอำไพ สุขน้อย ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และเป็นครูถ่ายทอดความรู้เรื่องการใช้สมุนไพรและการนวด ให้แก่คนในชุมชน ที่สำคัญคือ การถ่ายทอดความรู้เรื่องการนวดไทยให้กับนักเรียน เพื่อเป็นหมอนวดน้อยในโรงเรียน ช่วยนวดให้กับครู เพื่อนนักเรียน รวมทั้งผู้ปกครอง ซึ่งนอกจากจะสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับครูและเพื่อนๆ สร้างความอบอุ่นในครอบครัวแล้ว หมอนวดน้อยเหล่านี้ยังสามารถหารายได้จากการนวดเมื่อมีงานหรือกิจกรรม ครั้งละประมาณ 120 บาท ไว้สำหรับเป็นทุนการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองด้วย โดยขณะนี้มีนักเรียนที่เป็นหมอนวดน้อยในโรงเรียนระดับประถมศึกษา 1 แห่ง ในหมู่บ้านโพธิ์พัฒนา รวม 70 คน*******กรกฎาคม8/8*****25 กรกฎาคม 2550