รายงานข่าวโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส (Middle East Respiratory Syndrome: MERS) ประจำวันที่ 2 กรกฎาคม 2558

รายงานข่าวโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส

(Middle East Respiratory Syndrome: MERS)

ประจำวันที่ 2 กรกฎาคม 2558

1. สถานการณ์ ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2558  

1.พบผู้ป่วยยืนยันในประเทศ 1 ราย  

2.พบผู้สัมผัสโรค 154 คน

3.สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูลตั้งแต่มีนาคม 2555 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2558 พบผู้ป่วย 1,357 ราย เสียชีวิต 489 รายใน  26 ประเทศ ส่วนประเทศเกาหลีใต้ ข้อมูล ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2558 พบผู้ป่วย 182 ราย  เสียชีวิต 33 ราย

4. ขอความร่วมมือประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์  เพื่อ     ไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก  และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตาม      ข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย โทร 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง

2. สธ.เตรียมประกาศให้ผู้ป่วยชาวโอมานหายจากโรคเมอร์ส

นายแพทย์โสภณ  เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์สถานการณ์โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ส ว่า  อาการของผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์สชาวโอมาน ที่ได้รับการรักษาในห้องแยกโรค สถาบันบำราศนราดูร ในวันนี้อาการดีขึ้น รับประทานอาหารได้ ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ยังต้องอยู่ในการดูแลรักษาโรคประจำตัวที่มีอยู่ ส่วนอาการทางระบบทางเดินหายใจ ดีขึ้นมาก ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการได้ผลลบ  ไม่พบเชื้อโรคเมอร์ส

ในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะย้ายผู้ป่วยออกจากห้องแยกโรคความดันลบไปอยู่ในห้องผู้ป่วยปกติ และในช่วงบ่ายพรุ่งนี้ จะมีการแถลงข่าวผลการดูแลผู้ป่วยและผู้สัมผัสโรค ซึ่งเสร็จสิ้นกระบวนการตามมาตรฐาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข    พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตโอมานประจำประเทศไทย   ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ผู้แทนโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เข้าร่วม ซึ่งจะมีการแถลงถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับโรงพยาบาลภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการรับมือโรคติดต่ออุบัติใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีความเสี่ยงโรคเมอร์ส จากผู้เดินทางมาจากพื้นที่ติดโรคคือตะวันออกกลาง รวมทั้งเกาหลีใต้ จนกว่าการแพร่โรคในเกาหลีใต้จะยุติ ยังเข้มงวดผู้ที่จะเดินทางไปพื้นที่ติดโรค ให้รู้วิธีป้องกันตัวอย่างถูกต้อง และเมื่อกลับมาภายใน 14 วัน หากมีไข้ ไอ ให้สวมหน้ากากอนามัย รีบไปพบแพทย์แจ้งประวัติการเดินทาง และอย่านั่งรถสาธารณะมาโรงพยาบาลเองให้โทร 1669 

3. การเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากตะวันออกกลางและเกาหลีใต้ ที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค

          ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 1 กรกฎาคม 2558 มีบุคคลผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค ซึ่งส่วนใหญ่คือผู้เดินทางจากประเทศที่มีรายงานการเกิดโรคเมอร์สเข้ามาทั้งหมด 138 ราย  ในจำนวนนี้มาจากเกาหลีใต้ 73 ราย จากตะวันออกกลาง 65 ราย  สำหรับในวันที่ 1 กรกฎาคม 2558  มีบุคคลผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค รวม 4 ราย มาจากเกาหลีใต้ 3 คน  ตะวันออกกลาง 1 คน ทุกคนได้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ  

4. สรุปผลการให้บริการสายด่วน 1422 ปรึกษาประชาชนเรื่อง โรคเมอร์ส

           ในรอบ 24 ชั่วโมง วันที่ 2 กรกฎาคม 2558  มีผู้โทรมาสอบถามที่สายด่วน กรมควบคุมโรค รวม  57  สาย    คำถามที่ถามมากที่สุด คือ อาการ และสถานการณ์โรค ที่น่าสนใจคือ มีโรงพยาบาลเอกชน ปรึกษาการทำความสะอาดห้อง การสวมชุดป้องกันโรค นิยามผู้ป่วย 

5. ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

-ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 จำนวน 29,982 คน
ไม่พบผู้มีไข้   

-ขอความร่วมมือสายการบิน ประกาศเตือนบนเครื่องบิน เรื่องมาตรการคัดกรองที่สนามบิน/ แจกคำแนะนำ (health beware card) บนเครื่อง 37 เที่ยวบินตรงจากพื้นที่เสี่ยง / แนะนำการเข้มงวดทำความสะอาดเครื่องบิน

- ประสานงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ส่งผู้เดินทางจากเขตติดโรคให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคตรวจวัดไข้ทุกราย ก่อนอนุญาตให้เข้าเมือง

- ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ (Thermoscan) 4 จุด / ติดตั้งแอลกอฮอล์เจลกว่า 200 จุด ทั่วสนามบินแจกหน้ากากอนามัยที่จุดประชาสัมพันธ์

6. ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเดินหายใจ รวมทั้งโรคเมอร์ส

         ประชาชนคนไทยทั่วไปไม่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคเมอร์ส  ยกเว้นผู้ที่เดินทางไปในประเทศที่มี
การระบาด สำหรับประชาชนทั่วไปมีข้อปฏิบัติดังนี้

          1.หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจหรือผู้ที่มีอาการไอหรือจาม

          2.ปฏิบัติตามสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำสบู่

          3.รับผิดชอบต่อสังคม เมื่อมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกับบุคคลอื่น เมื่อไอหรือจามควรใช้กระดาษชำระปิดปากและจมูกทุกครั้ง และทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่ปิดมิดชิดและล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัย สำหรับผู้เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาด หากมีอาการดังกล่าวภายใน 14 วัน ให้รีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง

4. ประชาชนที่ไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หากมีไข้ ไอ ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นโรคเมอร์ส ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาตามปกติ หรือโทรปรึกษา สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมงหรือติดตามข่าวสารทางเฟสบุ๊ค “ไทยสู้เมอร์ส”

*********************  2 กรกฎาคม 2558