รายงานข่าวโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ เมอร์ส
(Middle East Respiratory Syndrome: MERS)
ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2558
1. สถานการณ์ ถึงวันที่ 7 กรกฎาคม 2558
1.ไม่มีผู้ป่วยผู้ป่วยยืนยันในประเทศ
2.สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูลตั้งแต่ 30 กันยายน 2555 – 5 กรกฎาคม 2558 พบผู้ป่วย 1,367 ราย เสียชีวิต 487 รายใน 26 ประเทศ ส่วนประเทศเกาหลีใต้ ข้อมูล ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2558 พบผู้ป่วย 186 ราย เสียชีวิต 33 ราย
3. ขอความร่วมมือประชาชน “เช็คก่อนแชร์” ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย โทร 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
2.สธ.กำชับโรงพยาบาลเข้มงวดการเฝ้าระวังและการค้นหา สอบสวนบุคคลที่เข้าข่ายการสอบสวนโรค (Person Under Investigation) และยังคงมาตรการคัดกรองที่ด่านฯ ต่อเนื่องต่อไป
นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ยังคงเข้มข้นระบบคัดกรองค้นหา เฝ้าระวังผู้เดินทางจากพื้นที่ติดโรคเมอร์สอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ซึ่งแต่ละวันมีผู้เดินทางจากพื้นที่ติดโรค ผ่านระบบคัดกรองวันละกว่า 3 หมื่นคนทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และที่สำคัญคือการเฝ้าระวังและค้นหา สอบสวนบุคคลที่เข้าข่ายการสอบสวนโรค (Person Under Investigation)ในโรงพยาบาล ให้เข้มงวดในกลุ่มผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ป่วยปอดบวมรุนแรง ผู้ป่วยที่ป่วยพร้อมกันหลายคน กลุ่มเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ครอบครัวที่มีผู้ป่วยในบ้านและมีประวัติเดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด และผู้ที่เดินทางกลับจากตะวันออกกลางในทุกภารกิจ
ทั้งนี้ หากผู้เดินทางจากพื้นที่ติดโรคภายใน 14วัน มีไข้ ไอ ให้สงสัยว่าอาจจะป่วย รีบพบแพทย์ทันที เพราะเป็นโรคติดต่ออันตราย ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยเนื่องจากอัตราการเสียชีวิตสูง และความปลอดภัยของประชาชนส่วนรวมในประเทศจากการแพร่ระบาดของโรค
3. การเฝ้าระวังผู้เดินทางกลับจากตะวันออกกลางและเกาหลีใต้ ที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค
ตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 - 6 กรกฎาคม 2558 มีผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรคเมอร์ส คือผู้เดินทางมาจากพื้นที่ติดโรครวม 158 คน ในจำนวนนี้มาจากตะวันออกกลาง 74 ราย เกาหลีใต้ 84 คน สำหรับในวันที่ 6กรกฎาคม 2558 มีผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค รวม 6 คน มาจากเกาหลีใต้ 5 คน ตะวันออกกลาง 1 คน ทุกคนได้ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
4. สรุปผลการให้บริการสายด่วน 1422 ปรึกษาประชาชนเรื่อง โรคเมอร์ส
วันที่ 6 กรกฎาคม 2558มีผู้โทรมาสอบถามที่สายด่วน 1422 รวม 67 สาย สอบถามโรคเมอร์ส 11 สาย คำถามที่มากที่สุด คือ สถานการณ์โรคเมอร์ส เดินทางไปพื้นที่เสี่ยงได้หรือไม่ ที่น่าสนใจคือ กระทรวงสาธารณสุขยกเลิกมาตรการเฝ้าระวังโรคเมอร์สหรือไม่
5. ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค วันที่ 6 กรกฎาคม 2558
-ที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ จำนวน29,785 คน พบผู้มีไข้ 6 คน แต่ไม่มีประวัติเดินทางจากพื้นที่ติดโรคอีโบลาและเมอร์ส ตรวจวัดไข้ซ้ำพบว่าอุณหภูมิร่างกายปกติ
-ที่สนามบินดอนเมือง คัดกรองผู้โดยสารรวม 283 คน เป็นเที่ยวบินตรงจากพื้นที่ติดโรค 212 คน ไม่พบผู้มีไข้
-ที่สนามบินภูเก็ต คัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ติดโรค 5 เที่ยวบิน จำนวน 1,145 คน ไม่พบผู้มีไข้
-ที่สนามบินเชียงใหม่ คัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ติดโรค 1 เที่ยวบิน จำนวน 216 คน ไม่พบผู้มีไข้
-ด่านพรมแดนหนองคาย คัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ติดโรค90 คน ไม่พบผู้มีไข้
ทั้งนี้ ทุกด่านฯ ได้แจกคำแนะนำ (health beware card) ประสานงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ส่งผู้เดินทางจากพื้นที่ติดโรคให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคตรวจวัดไข้ทุกราย ก่อนอนุญาตให้เข้าเมือง
6. ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเดินหายใจ รวมทั้งโรคเมอร์ส
ประชาชนคนไทยทั่วไปไม่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคเมอร์ส ยกเว้นผู้ที่เดินทางไปในประเทศที่มีการระบาด สำหรับประชาชนทั่วไปมีข้อปฏิบัติดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจหรือผู้ที่มีอาการไอหรือจาม
2.ปฏิบัติตามสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่
3.รับผิดชอบต่อสังคม เมื่อมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกับบุคคลอื่น เมื่อไอ หรือจามควรใช้กระดาษชำระปิดปากและจมูกทุกครั้ง และทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วลงในถังขยะที่ปิดมิดชิดและล้างมือให้สะอาด สวมหน้ากากอนามัย สำหรับผู้เดินทางกลับจากพื้นที่ติดโรค หากมีอาการดังกล่าวภายใน 14 วัน ให้รีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง
4.ประชาชนที่ไม่ได้เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หากมีไข้ ไอ ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นโรคเมอร์ส ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาตามปกติ หรือโทรปรึกษาสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมงหรือติดตามข่าวสารทางเฟสบุ๊ค “ไทยสู้เมอร์ส”
******************** 7 กรกฎาคม 2558