กระทรวงสาธารณสุข ชวนคนไทย ฝึกซ้อมปั่นจักรยาน เตรียมร่างกายให้พร้อม ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมมหามงคล “ปั่นเพื่อพ่อ : Bike for Dad” แนะ 8 ข้อควรปฏิบัติในการปั่นจักรยาน
บ่ายวันนี้ (10 พฤศจิกายน 2558) ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย และคณะผู้บริหาร เปิดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการใช้จักรยานและการเดินในกระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมมหามงคลแห่งปี “ปั่นเพื่อพ่อ: Bike for Dad” เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์ให้คนไทยใส่ใจกับการออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละ 30 นาที เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันการเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกิดจากการขาดการออกกำลังกาย ที่เป็นปัญหาไปทั่วโลกคือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการออกกำลังกาย เช่น จัดสวนสาธารณะ สนามกีฬาและสถานที่นันทนาการ รวมทั้งรณรงค์เรื่อง การเดิน การปั่นจักรยาน การใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์ เป็นต้น
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวอีกว่า เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกายก่อนเข้าร่วมกิจกรรมมหามงคล “ปั่นเพื่อพ่อ : Bike for Dad” กระทรวงสาธารณสุขมีคำแนะนำการปฏิบัติในการปั่นจักรยาน 8 ข้อ ดังนี้ 1.ควรหมั่นฝึกซ้อมปั่นจักรยานเป็นประจำ 2.พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง 3.ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือของมึนเมา 4.ควรรับประทานอาหารก่อนการปั่นจักรยานอย่างน้อย 2 ชั่วโมง 5.ควรอบอุ่นร่างกายก่อนการปั่นจักรยานอย่างน้อย 5-10 นาที 6.หากมีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาพกติดตัวตลอดเวลา 7.ควรเตรียมอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมกับการปั่นจักรยาน และ 8.ตรวจเช็คจักรยานให้พร้อมกับการปั่น โดยหลังการปั่นจักรยาน ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อปรับสภาพร่างกาย จิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อชดเชยเหงื่อที่เสียไป
ด้าน นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สำหรับการปั่นจักรยาน เป็นรูปแบบหนึ่งของการออกกำลังกายทำได้ทุกเพศทุกวัย ข้อดีของการปั่นจักรยานคือช่วยลดการจราจร ลดการใช้พลังงาน และลดมลพิษในอากาศจากควันท่อไอเสีย ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เป็นการกระตุ้นพัฒนาสมอง ให้คิดเรื่องการทรงตัว ทิศทาง ความเร็ว และควบคุมร่างกายให้ทำงานร่วมกัน ทำให้กล้ามเนื้อขา บริเวณเอว สะโพก แข็งแรง ช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ลดอัตราการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือด ช่วยลดน้ำหนัก หากปั่นจักรยานต่อเนื่องจะช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง กล้ามเนื้อหัวใจทำงานดีขึ้น การไหลเวียนของเลือดดีป้องกันภาวะเส้นเลือดตีบตันได้ ช่วยร่างกายผ่อนคลาย อารมณ์ดีจากการเพิ่มของระดับฮอร์โมนเอนเดอร์ฟิน
******************** 10 พฤศจิกายน 2558
View 24
10/11/2558
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ