พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และรองประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จังหวัดแพร่ ต้นแบบการรักษา ด้วยแพทย์แผนไทยอย่างเหมาะสม ลดการใช้ยาแผนปัจจุบัน เพื่อการพัฒนาสุขภาพอย่างยั่งยืนและการพึ่งตนเอง

          วันนี้ (10 มีนาคม 2559) เวลา 09.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี รองประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิฯ และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยม ติดตามผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จังหวัดแพร่ พร้อมมอบถุงของขวัญพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารให้แก่ผู้ป่วย

          ทั้งนี้จากรายงานของนายแพทย์เกรียงศักดิ์ ธนอัศวนนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จังหวัดแพร่ โรงพยาบาลฯ ให้บริการแพทย์แผนไทยคู่ขนานกับแพทย์แผนปัจจุบันจนได้รับเป็นโรงพยาบาลแพทย์แผนไทยต้นแบบที่ผ่านเกณฑ์ประเมินมาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในระดับดีเยี่ยม เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบันมีผู้เข้ารับบริการเฉลี่ยปีละ 15,000 ครั้ง การตรวจรักษาผู้ป่วยในแผนไทยจะมีการตรวจวินิจฉัยโรคโดยแพทย์แผนปัจจุบัน และส่งต่อให้แพทย์แผนไทยเพื่อปรุงยาสมุนไพรให้ผู้ป่วยช่วยลดการใช้ยาแพทย์แผนปัจจุบันเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยและการพึ่งตนเองช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของประชาชนและของประเทศ

          ขณะนี้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย ได้มีการปรุงยาสมุนไพรสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการปวดตามข้อ  หรือกล้ามเนื้อ ลดการใช้ยาแก้ปวดในกลุ่ม NSIAD เนื่องจากจะมีผลข้างเคียงของยา ระคายต่อกระเพาะ ไต และอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และมีปัญหากับไต โดยการพอกเข่าด้วยยาสมุนไพร เป็นสูตรร้อนลดอาการปวด  สูตรยาเย็นพอกลดอาการปวด ยาต้มแก้ปวดเมื่อย และลูกประคบสมุนไพร ใช้น้ำมันไพลทาบริเวณที่ปวด เทผงยาลงในบริเวณที่มีอาการปวด และพันด้วยผ้าก๊อต ทิ้งไว้ประมาณ 6 ชั่วโมง ทุกวัน วันละ 1 ครั้ง จนกว่าอาการจะหายปวด มีสรรพคุณ แก้เคล็ดขัดยอก แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แก้ลม แก้เหน็บชา ปวดตามข้อแก้ตะคริว ผลเป็นที่น่าพอใจ ช่วยบรรเทาอาการปวดเข่าได้จนเป็นที่นิยมในพื้นที่ การใช้ยาสมุนไพรต้องระวังบริเวณผิวที่บอบบาง และผู้ที่มีอาการแพ้สมุนไพร

          นอกจากนี้อยู่ในช่วงหน้าร้อนทางโรงพยาบาลฯ จึงได้ทำน้ำสมุนไพรคลายร้อน เพื่อบริการแก่ผู้ป่วย ได้แก่ 1.บัวบก มีสรรพคุณ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้อ่อนเพลีย 2.กระเจี๊ยบ มีสรรพคุณ ขับปัสสาวะ แก้กระหายน้ำ3.อัญชัน มีสรรพคุณ ดับกระหาย เพิ่มความสดชื่น บำรุงสายตา 4.ว่านกาบหอย มีสรรพคุณ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ช้ำใน 5.ใบเตย มีสรรพคุณ แก้ดับกระหาย บำรุงหัวใจ และ6.มะตูม มีสรรพคุณ แก้ร้อนในช่วยย่อยอาหาร ขับลมในท้อง

 

***************** 10 มีนาคม 2559

 

 



   
   


View 17    10/03/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ