รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากจราจรเสียชีวิตปีละ 24,000 ราย ประมาณร้อยละ 70 เป็นผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกนิรภัย เตรียมเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงโทษผู้ขับขี่รถไม่สวมหมวกนิรภัย ด้วยการดูแลผู้บาดเจ็บทางสมองในโรงพยาบาลแทนการจ่ายค่าปรับ เพื่อสร้างความตระหนักถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากการไม่สวมหมวกนิรภัย
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า การดำเนินงานป้องกันการบาดเจ็บจากจราจร ที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันให้ให้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมทั้งให้มีการรณรงค์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อสร้างความตระหนัก ในการร่วมป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากจราจรให้ได้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากจราจรปีละ 24,000 ราย โดยประมาณร้อยละ 70 เป็นผู้ขับขี่รถจักยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย นอกจากจะทำให้บาดเจ็บรุนแรงจนเสียชีวิตแล้ว ยังมีส่วนหนึ่งต้องกลายเป็นผู้พิการ เป็นภาระครอบครัว และสังคม
ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน จากบริษัทกลางคุมครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ตั้งแต่ 1 มกราคม -11 มีนาคม 2559 มีผู้บาดเจ็บ 149,243 คน เสียชีวิต 2,284 ราย และข้อมูลจากรายงานสถิติรับแจ้งผู้ประสบภัยจากรถทั้งประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 12 มีนาคม 2559 มีผู้ทุพพลภาพ บาดเจ็บ และเสียชีวิต จากรถจักยานยนต์ ร้อยละ 29.56
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมผู้บาดเจ็บทางสมองที่นอนพักรักษาในโรงพยาบาล เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ มีสาเหตุจากการขับขี่รถจักยานยนต์โดยไม่สวมหมวกนิรภัย และจากการสอบถามผู้บาดเจ็บบางรายบอกว่าคิดว่าขับไปใกล้ๆ ไม่สวมคงไม่เป็นไร ไม่คิดว่าเมื่อประสบอุบัติเหตุจะทำให้บาดเจ็บรุนแรงขนาดนี้ ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงอันตรายของการบาดเจ็บจากการไม่สวมหมวกนิรภัย เตรียมเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเครือข่ายรัฐและเอกชน นอกจากจะได้รณรงค์สร้างจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัย ด้วยการปฏิบัติตามกฎหมาย และการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งเมื่อขับขี่รถแล้ว จะขอให้ลงโทษผู้ทำผิดกฏหมายจากการขับขี่รถจักยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย บำเพ็ญประโยชน์ด้วยการดูแลผู้บาดเจ็บทางสมองในโรงพยาบาลที่สาเหตุจากการไม่สวมหมวกนิรภัยแทนการเสียค่าปรับ น่าจะได้ผลดี
“ขอให้ประชาชนทุกคนอย่าประมาท ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าคิดว่า ไม่สวมหมวกก็ไม่เห็นจะเป็นไร หัวใครหัวมัน เพราะหากเกิดการบาดเจ็บแล้วเดือดร้อนไปทุกฝ่าย ทั้งตัวผู้บาดเจ็บ ครอบครัว ประเทศชาติ” ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าว
************************************ 13 มีนาคม 2559