คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน ปรับระบบการบริหารจัดการ นโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ”ทั้งในเรื่อง นิยามผู้ป่วยวิกฤตสีแดงที่ชัดเจน มีระบบเบิกจ่ายที่เหมาะสม ตามราคากลางค่ารักษาพยาบาล ( Fee schedule) ที่ทุกส่วนมีความพอใจ  รวมทั้งการดำเนินการหลัง 72 ชั่วโมงพ้นวิกฤตที่ต้องหาโรงพยาบาลรับส่งต่อ พร้อมประกาศใช้ก่อนสงกรานต์ปี 2559


วันนี้ (16 มีนาคม 2559) ที่ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วยนพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ  ประชุมคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน ครั้งที่ /2559  โดยผู้แทน กองทุน  และโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมประชุมด้วย ในวันนี้ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้า นโยบาย  “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ” ที่มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน และผู้แทนจาก กองทุน หารือแนวทางการดำเนินงานเพื่อปรับระบบให้เกิดประโยชน์กับประชาชน


ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า การดำเนินงานตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ” ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ ที่ยึดหลัก การช่วยชีวิตผู้ป่วยเป็นสำคัญ  โดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชน ที่ถือว่าเป็นนโยบายเพื่อสังคม(CSR) ที่ผ่านมาการดำเนินงานอาจมีข้อติดขัดบางประการ ทั้งในเรื่องนิยามผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน  การเบิกจ่ายเงินและการส่งต่อผู้ป่วย เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดจากนโยบายนี้  กระทรวงสาธารณสุขและสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือกัน ครั้ง เมื่อวันที่ มีนาคม 2559 เรื่องทิศทางการขับเคลื่อนนโยบาย   มีนาคม 2559หารือเรื่องการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน กับผู้แทนจาก กองทุน ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2559 หารือเรื่องแนวทางการดำเนินงานเจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิ ร่วมกับผู้แทนโรงพยาบาลเอกชน 30 แห่ง


โดยจากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่เห็นด้วยในหลักการ ทั้งในเรื่องการคัดแยกผู้ป่วยวิกฤตสีแดงตาม 25 กลุ่มอาการที่เห็นตรงกันทั้งโรงพยาบาลและผู้ป่วย  โดยหากมีข้อสงสัยจะมีหน่วยงานกลางคือสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติเป็นที่ปรึกษาและให้ความเห็นภายใน 15 นาที  ส่วนในเรื่องรูปแบบการเบิกจ่ายเงินนั้น เห็นด้วยกับการจ่ายแบบราคากลางค่ารักษาพยาบาล( Fee schedule) ให้มีการปรับราคากลางที่ทุกส่วนมีความพอใจ  สำหรับการดำเนินการหลัง 72 ชั่วโมงหลังผู้ป่วยพ้นวิกฤตที่ต้องหาโรงพยาบาลรับส่งต่อ กองทุนประกันสังคมใช้โรงพยาบาลต้นสังกัด กองทุนสวัสดิการข้าราชการ  กรมบัญชีกลางจะได้กำหนดระเบียบขึ้นมารองรับ เช่น ให้อยู่โรงพยาบาลเดิมต่อไป โดยกำหนดอัตราการเบิกจ่าย ส่วนต่างผู้ป่วยจ่ายเพิ่มเอง ส่วนกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ใช้โรงพยาบาลต้นสังกัดและเพิ่มการจัดการเรื่องศูนย์สำรองเตียง

 

“ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ประสานทำความตกลงกับ กองทุนและโรงพยาบาลเอกชน ให้ได้ข้อตกลงภายใน สัปดาห์ เพื่อประกาศใช้ก่อนเทศกาลสงกรานต์ปี 2559 นี้  และให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติเตรียมระบบรองรับ ทำงานเชิงรุกโดยทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานบริการประชาชน ให้มีความสะดวกรวดเร็ว ”ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าว 


******************************** 16 มีนาคม 2559

 

 

 

 

 

 

 

 

****************************



   
   


View 11    16/03/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ