ไทยสร้างสถิติโลกคนรักสุขภาพ คนวัย 35 ปีขึ้นไป ตรวจความดันโลหิตกว่า 3 ล้านคน พบผิดปกติกว่า 3 แสนคน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเผยยอดวันรณรงค์ตรวจวัดความดันโลหิต วันแรกกว่า 3 ล้านคน สร้างสถิติโลกเป็นประเทศแรกในโลก พบคนมีความดันโลหิตสูง กว่า 3 แสนคน จังหวัดแรกที่พบสถิติสูงสุด 5 จังหวัดแรกได้แก่อุบลราชธานี ยะลา สงขลา พระนครศรีอยุธยา และกำแพงเพชร และยังพบคนอ้วนเกือบเจ็ดหมื่นคน คาดยอด7 วันอาจเกิน 20 ล้านคน นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลสรุปการรณรงค์ตรวจวัดความดันโลหิตประชาชนไทยที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ เพื่อคัดกรองหาผู้ที่มีความดันโลหิตสูงที่ยังไม่รู้ตัวว่าป่วยให้เข้ารักษาควบคุมอาการ ป้องกันโรคแทรกซ้อน ก่อนสายเกินแก้ ที่สำคัญได้แก่ โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน สมองตีบตัน ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต รวมทั้งโรคหัวใจขาดเลือด ในโครงการตรวจวัดความดัน ป้องกันภัยเงียบ ซึ่งเริ่มต้นรณรงค์ตั้งแต่วันที่ 2-8กันยายน2550 ว่าจำนวนผู้รับบริการตรวจความดันโลหิตทั่วประเทศ เมื่อเวลา 14.00 น. ในวันแรก (2 กันยายน ) มีประชาชนได้รับบริการตรวจวัดความดันโลหิตแล้ว 3,440,630 คน จาก 69 จังหวัด สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่าตัว โดยพบผู้ที่มีความดันสูงผิดปกติคือเกินกว่า 140 /90 มิลลิเมตรปรอท ทั้งหมด 336,191 คน คิดเป็นร้อยละ 10 โดย 10 จังหวัดที่พบจำนวนผู้มีความดันโลหิตสูงผิดปกติมากที่สุด ได้แก่ อุบลราชธานี 40,212 คน ยะลา 31,350 คน สงขลา 26,905 คน พระนครศรีอยุธยา 18,377คน กำแพงเพชร 17,365 คน ศรีสะเกษ 15,307 คน ร้อยเอ็ด 15,040 คน นนทบุรี 13,983 คน อุทัยธานี 10,966 คน และนครราชสีมา 10,331 คน สำหรับที่กรุงเทพมหานคร ตรวจ 6,790 คน พบความดันสูงผิดปกติ 1,982 คน คิดเป็นร้อยละ 29 นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานการตรวจวัดประเมินค่าดัชนีมวลกายหรือค่าบีเอ็มไอ (BMI: Body Mass Index) เพื่อประเมินความอ้วน ในกลุ่มประชาชนวัย 35 ปีเช่นกัน มีรายงาน 21 จังหวัด ตรวจแล้ว 489,928 คน พบอ้วนคือมีค่าบีเอ็มไอ มากกว่า 30 จำนวน 67,205 คน หรือร้อยละ14 นายแพทย์วัลลภกล่าวต่อไปว่า งานนี้เป็นงานชิ้นแรกของอสม.ที่สร้างประโยชน์สังคม และเป็นผลงานของประเทศไทยชิ้นแรกในโลก เนื่องจากยังไม่มีประเทศในโลกที่ตรวจวัดความดันโลหิตประชาชนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ได้ทั้งประเทศ ซึ่งหากพบว่าป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง จะมีความเสี่ยงที่จะให้เกิดโรคแทรกซ้อนสำคัญตามมาที่สำคัญ ได้แก่โรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน โรคหลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดโรคอัมพาต อัมพฤกษ์ และโรคไต ทำเรื่องนี้ ผมกำลังมองงานชิ้นต่อไปคือโรคมะเร็ง จะทำในเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ จะรณรงค์ให้หญิงไทยตรวจมะเร็งเต้านม และในเดือนตุลาคมปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะอบรมอสม.รุ่นที่ 2 อีกจำนวน 3 แสนคน หลังจากที่อบรมรุ่นแล้ว 2 แสน 9 หมื่นคน ซึ่งจะทำให้อสม.มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญ สามารถตัดสินใจในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติได้อีก ทั้งนี้ จากผลการตรวจสุขภาพ ในกลุ่มประชาชนที่มีอายุ35 ปีขึ้นไปล่าสุดในปี 2547 พบว่ามีคนไทยน่าจะป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง 9-10 ล้านคน แต่เข้ารักษาตัวเพียง 2 ล้านกว่าคน แต่อีก 7 ล้านคน ใช้ชีวิตอย่างไม่เฉลียวใจ ไม่รู้ว่าตัวเองป่วย คาดว่าเมื่อสิ้นโครงการวันที่ 8 กันยายน 2550 จะตรวจวัดความดันโลหิตประชาชนที่มีอายุ35 ปีขึ้นไปได้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน กันยายน********************* 2 กันยายน 2550