วันนี้ (27 พฤษภาคม 2559) เวลา 09.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมสามัญประจำปีพุทธศักราช 2559 ของคณะกรรมการมูลนิธิสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ณ สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามผลการดำเนินงานในการให้บริการผู้ป่วย การป้องกันโรคไตเรื้อรัง งานวิชาการ การฝึกอบรม และการวิจัย โดยมีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ศาตราจารย์นายแทพย์อรุณ เผ่าสวัสดิ์ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ศาตราจารย์แพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ พร้อมด้วยศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณนายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ชาตรี บานชื่น คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แพทย์ พยาบาลและผู้เกี่ยวข้อง เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จฯ
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังประมาณ 8 ล้านคน ในจำนวนนี้คาดว่าต้องได้รับการล้างไต 7 หมื่นคน โดยมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ15-20 ต่อปี แต่ได้รับการปลูกถ่ายไต 600 คนต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้ป่วยโรคไตสูงถึงปีละ 17,000 ล้านบาท ในปี 2559 กระทรวงสาธารณสุข จึงมีนโยบายจัดตั้งคลินิกโรคไตเรื้อรังในโรงพยาบาลทั่วประเทศทุกระดับ โดยใช้รูปแบบคลินิกโรคไตเรื้อรังต้นแบบที่อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร หรือ“คลองขลุงโมเดล” ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ได้ศึกษาวิจัยการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง โดยจัดตั้งคลินิกโรคไตเรื้อรังในโรงพยาบาลชุมชน ฝึกอบรมพัฒนาทีมรักไต และบูรณาการงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ผลการวิจัยพบว่าสามารถยืดระยะเวลาการล้างไตของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในระยะ 3-4 ออกไปได้เท่าตัวจาก 7 ปีเป็น 14 ปี นับเป็นความสำเร็จเป็นประเทศแรกของโลก
สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ได้สนับสนุนวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไต ในการอบรมทีมสหวิชาชีพได้แก่ แพทย์ พยาบาล นักกำหนดอาหาร/นักโภชนาการ เภสัชกร นักกายภาพบำบัดฯลฯ และทีมรักไต ได้แก่ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) และผู้ดูแลผู้ป่วย พร้อมสนับสนุนสื่อ เอกสารวิชาการเพื่อเผยแพร่ความรู้ ใน 12 เขตสุขภาพ
กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดตั้งคลินิกชะลอไตเสื่อมในโรงพยาบาลทุกแห่ง โดยเฉพาะในโรงพยาบาลชุมชนระดับกลาง ขนาด30เตียงขึ้นไปทุกแห่ง รวมจำนวน 851 แห่ง ผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า สามารถชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังได้มากกว่าร้อยละ 60 มีแนวโน้มว่าจะชะลอการล้างไตออกไปได้นานขึ้น คาดว่าจะช่วยรัฐประหยัดงบประมาณได้นับหมื่นล้านบาท ทั้งนี้ประเทศไทยจัดตั้งคลินิกชะลอไตเสื่อมเป็นต้นแบบได้สำเร็จ นอกจากจะมีทีมสหวิชาชีพที่เข้มแข็งแล้ว ยังมีเครือข่าย อสม. เป็นกำลังสำคัญของทีมรักไต ซึ่งสามารถไปเยี่ยมติดตามผู้ป่วยที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
****************** 27 พฤษภาคม 2559
View 18
27/05/2559
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ