กระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคตาแดงปีนี้ เกือบ 5 เดือนทั่วประเทศพบผู้ป่วยเกือบ 50,000 ราย ย้ำไม่ใช้ยาหยอดตาร่วมกัน โรคนี้ป้องกันได้โดยล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ ไม่ขยี้ตา หากมีอาการตาแดง และมีปัญหาตาพร่ามัวร่วมด้วย อาจเป็นอันตรายได้ ให้รีบพบจักษุแพทย์โดยด่วน
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าช่วงนี้ฝนตกชุกเกือบทุกภาค บางพื้นที่มีน้ำท่วมขัง มีหลายโรคที่สามารถติดต่อกันและระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคตาแดงจากเชื้อไวรัสเนื่องจากสภาพอากาศที่ชื้นแฉะ เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในปี 2559 นี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 23 พฤษภาคม ทั่วประเทศพบผู้ป่วยแล้ว 47,410 ราย โดยเฉพาะ 5 จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนคนสูงสุด ได้แก่ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี แม่ฮ่องสอน ศรีษะเกษ และสระบุรี คาดว่าผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นตลอดฤดูฝนปีนี้
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันโรคตาแดง โดยเฉพาะตามโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก ที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก เพื่อป้องกันการป่วยจากโรคนี้ โดยเฉพาะช่วงที่มีน้ำป่าไหลหลาก ฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ ขอให้ผู้ปกครองย้ำเตือนลูกหลานอย่าลงไปเล่นน้ำ เนื่องจากในน้ำท่วมขังจะมีเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่อยู่บนพื้นดิน เช่น มูลสัตว์ต่างๆ ขยะปนเปื้อนเป็นจำนวนมาก หากน้ำเข้าตาจะทำให้ตาอักเสบและเป็นโรคตาแดงได้
ด้านนายแพทย์อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคตาแดง เกิดจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย โดยเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำสกปรกหรือฝุ่นละอองเข้าตาโดยตรงหรือติดมากับมือ เมื่อเชื้อโรคเข้าตาจะทำให้ระคายเคืองตา ตาแดง มีขี้ตามาก หนังตาบวม ปวดตาหรือมองแสงจ้าไม่ได้ อาจเป็นข้างหนึ่งข้างใดหรือเป็นทั้ง 2 ข้าง โรคนี้ติดต่อกันจากการสัมผัสมากที่สุด ดังนั้นเมื่อเป็นโรคตาแดงขอให้ปฏิบัติตัวดังนี้ 1.ให้ใช้กระดาษนุ่มๆ ซับน้ำตา หรือใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดขี้ตาและบริเวณเปลือกตา แล้วทิ้งในถังขยะที่มิดชิด 2.ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา เนื่องจากเชื้อจะสะสมที่ผ้าเช็ดหน้าและแพร่ไปติดคนอื่นได้ 3.งดใส่คอนแทคเลนส์จนกว่าตาจะหายอักเสบ 4.ใส่แว่นกันแดดเพื่อลดการระคายเคืองจากแสง5.ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกัน เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา และเครื่องนอน เพื่อป้องกันโรคแพร่ระบาด ประการสำคัญ ไม่ควรใช้ยาหยอดตาร่วมกัน เนื่องจากเชื้ออาจติดอยู่ที่ปากขวดยาหยอดตาได้ ทั้งนี้ หากมีอาการปวดตารุนแรง ตาพร่ามัว หรืออาการตาแดงไม่ทุเลาภายใน 7 วัน ขอให้ไปรับการรักษากับแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน
สำหรับการป้องกันโรคตาแดงมีดังนี้ 1.ถ้ามีน้ำสกปรกเข้าตาควรล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที 2.หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ เพื่อกำจัดเชื้อโรคออกจากมือ และห้ามใช้มือขยี้ตา 3.รักษาความสะอาดเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด
********************************* 29 พฤษภาคม 2559