ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยปี 2559 เพียง 22 สัปดาห์ พบผู้ป่วยไข้เลือดออกกว่า 18,000 คน เสียชีวิต 16 คน เพื่อป้องกันการระบาดในช่วงฤดูฝน กำชับทุกจังหวัด เข้ม 3 มาตรการหลัก คือการป้องกัน เพื่อลดการป่วย ด้วยมาตรการ 3 เก็บบวก 5 ส.  การควบคุมโรคไม่ให้ระบาดเมื่อพบผู้ป่วยด้วยมาตรการ 3-3-1  และการวินิจฉัย รักษา ที่รวดเร็วเพื่อป้องกันการเสียชีวิต ด้วยระบบแพทย์พี่เลี้ยง
 
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในประเทศยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูการระบาดของโรค  ข้อมูลของสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-7 มิถุนายน 2559 เพียง 22 สัปดาห์ พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสม 18,337 คน พบผู้ป่วยมากสุดที่ภาคกลาง 8,107 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4,878 คน ภาคเหนือ 2,567 คน ภาคใต้ 2,785 คน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 พบจำนวนผู้ป่วยลดลงประมาณร้อยละ 14 แต่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 11 รายเป็น 16 ราย ดังนั้น สิ่งที่ต้องกำชับให้หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศเร่งรัดดำเนินการต่อเนื่องอย่างเข้มข้นมี 3 มาตรการหลักๆ คือ 1.มาตรการป้องกัน เพื่อลดการป่วย  โดยขอความร่วมมือประชาชนใช้มาตรการ 3 เก็บคือ เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ และ 5 ส. คือ สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ สร้างนิสัย ทั้งในที่ทำงาน บ้าน โรงพยาบาล โรงเรียน โรงงาน วัด  ทำต่อเนื่องทุก 7วัน ตลอดปีจนเป็นนิสัย
  
2.มาตรการควบคุมโรคไม่ให้แพร่ระบาด ด้วยมาตรการ 3-3-1 โดยเมื่อพบผู้ป่วย ให้รายงานโรคให้หน่วยควบคุมโรคของพื้นที่ภายใน 3 ชั่วโมง ให้อาสาสมัครสาธารณสุขออกกำจัดลูกน้ำยุงลายที่บ้านและในชุมชนของผู้ป่วยภายใน 3 ชั่วโมง และให้ทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วลงควบคุมโรคในพื้นที่ภายใน 1 วัน เพื่อพ่นสารเคมีกำจัดยุงตัวแก่ในรัศมี 100 เมตร ป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นในพื้นที่เดิมซ้ำอีก  3.มาตรการการรักษา  โรงพยาบาลทุกแห่งต้องแม่นยำในเรื่องตรวจคัดกรองวินิจฉัย ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก เพื่อให้การรักษาที่รวดเร็ว ลดอัตราการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด  รวมทั้งจัดระบบส่งต่อผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพรวดเร็ว โดยมอบหมายให้กรมการแพทย์เป็นเจ้าภาพหลัก ดำเนินการฝึกอบรมทบทวนความรู้ เพื่อให้แพทย์มีความชำนาญในการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรค รวมทั้งมีระบบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในจังหวัด เป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาด้านการรักษาในโรงพยาบาลชุมชนอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง 
 
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเอาใจใส่สุขภาพตนเองและบุคคลในครอบครัว หากป่วยมีไข้สูง กินยาแล้วไข้ไม่ลด อาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ให้นึกถึงโรคไข้เลือดออก รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อรับการรักษาให้พ้นระยะอันตราย คือช่วงที่ไข้เริ่มลดที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะช็อค ซึ่งผู้ป่วยจะซึมลง อ่อนเพลีย อาจมีเลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน หรือถ่ายอุจจาระสีดำ เพื่อป้องกันอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนจนเสียชีวิต และหากมีข้อสงสัยโทรปรึกษาสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
 
 *******************************      12 มิถุนายน 2559


   
   


View 20    12/06/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ