ปลัดกระทรวงสาธารณสุข สั่งการสถานบริการสาธารณสุข ทั้งโรงพยาบาลและสถานีอนามัยทุกแห่ง ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่เป็นพิเศษ ป้องกันการก่อเหตุงัดแงะ ขโมยยาและเวชภัณฑ์ เกี่ยวกับจากเหตุการณ์ปล้นเวชภัณฑ์จากศูนย์สาธารณสุขเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2550 ซึ่งทางหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ติดตามความเคลื่อนไหวพบว่า แนวร่วมก่อความไม่สงบได้กว้านซื้อยาและเวชภัณฑ์ งัดแงะขโมยยา อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์พื้นฐาน ตามสถานีอนามัยและศูนย์สาธารณสุขในพื้นที่ นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ (5 กันยายน 2550) ได้สั่งการให้ผู้บริหารโรงพยาบาลทุกระดับ และสถานีอนามัยในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น โดยเฉพาะการดูแลคลังยาและเวชภัณฑ์ของโรงพยาบาล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์งัดแงะ ลักขโมยยาและเวชภัณฑ์เกิดขึ้น ส่วนสถานีอนามัยซึ่งส่วนใหญ่มีเพียงยาสามัญประจำบ้านรักษาโรคทั่วไป และเครื่องมืออุปกรณ์ทำแผลเล็กๆ น้อย ๆ ได้ขอให้อาสาสมัครสาธารณสุขและชาวบ้าน ช่วยเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลอีกทางหนึ่ง เนื่องจากถือเป็นสมบัติของชุมชน ซึ่งยาที่สำรองไว้นั้นใช้สำหรับดูแลรักษาโรคให้ชาวบ้านได้รับความสะดวก และอยู่ใกล้ชิดชุมชนที่สุด นายแพทย์ปราชญ์กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่ต่อเนื่องมานานกว่า 3 ปี สถานีอนามัยถูกเผา วางเพลิง ระเบิด 12 แห่ง โรงพยาบาลถูกก่อกวนหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ถูกทำร้ายเสียชีวิตและบาดเจ็บแล้วกว่า 30 ราย ขณะนี้โรงพยาบาลทุกแห่งใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ มีมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยแก่บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยที่มารับบริการ เช่น การปรับปรุงสถานที่รอบรั้วโรงพยาบาลบริเวณให้โล่ง มองเห็นง่าย สะดวกในการดูแล จัดระบบทางเข้าออก เพิ่มเวรยามรักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล และติดตั้งกล้องวงจรปิดจับตาสัญญาณความผิดปกติต่าง ๆ รวมทั้งการอบรมเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ ทักษะพื้นฐานในการป้องกันตัว การดูแลความปลอดภัย การสังเกตวัตถุต้องสงสัย สิ่งผิดปกติ สิ่งบอกเหตุในการก่อความไม่สงบ การแจ้งเตือนและการประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ กันยายน1/6 ******************************** 5 กันยายน 2550


   
   


View 12    05/09/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ