รมช.วัลลภ ต่อยอดพัฒนา อสมช. ดูแลมะเร็งเต้านม และสำรวจความเครียดคนไทย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขยายแผนรับมือโรคเรื้อรัง ให้อสม. รณรงค์ให้ความรู้หญิงไทยอายุ 35 ปีขึ้นไปตรวจเต้านมด้วยตนเอง ชี้หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกและรับการรักษาทันที โอกาสหายขาดสูง พร้อมให้กรมสุขภาพจิตทำแบบทดสอบความเครียด สำหรับอสม.คัดกรองประชาชน ลดปัญหาซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย วันนี้ (19 กันยายน 2550) ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาสุขภาพภาคประชาชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์บุญเลิศ ลิ้มทองกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานสุขภาพภาคประชาชน ของชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมมอบนโยบายพัฒนาศักยภาพ อสม. ปี 2551 แก่ผู้แทนชมรม อสม. จาก19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 40 คน นายแพทย์วัลลภ กล่าวว่า การอบรมพัฒนาศักยภาพ อสม. ทั่วประเทศให้เป็น อสม.เชี่ยวชาญ (อสมช.) เพื่อให้มีความรู้และทักษะในการดูแลสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพคนไทยและคนทั่วโลก นับว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยเมื่อวันที่ 2-8 กันยายนที่ผ่านมา อสมช. 297,720 คน ได้ร่วมกับ อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รณรงค์ตรวจวัดความดันโลหิตคนไทยอายุ 35 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ได้ถึง 21,691,310 คน หรือร้อยละ 81.75 ของคนไทยที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป พบเป็นโรคความดันโลหิตสูง 2,477,784 คน หรือร้อยละ 11.4 และมีผู้ที่น้ำหนักเกินมาตรฐาน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญนำไปสู่โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ร้อยละ 27 ทำให้ผู้ป่วยทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว รวมทั้งผู้ที่มีความเสี่ยงได้รับคำแนะนำและการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมทันเวลา นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อว่า ได้มอบนโยบายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เร่งพัฒนาศักยภาพ อสม. ให้เป็น อสมช. อย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2551 จะอบรมเพิ่มอีก 200,000 คน และจะต่อยอดดำเนินการในโรคที่เป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของคนไทย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น คือ โรคมะเร็ง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตปีละกว่า 50,000 ราย โดยเฉพาะโรคมะเร็งในผู้หญิง ที่สามารถตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรกและรักษาให้หายขาดได้ ได้แก่ มะเร็งเต้านม ซึ่งเสียชีวิตปีละ 2,000 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 5,592 ราย โดยให้ อสม. ซึ่งรู้จัก คุ้นเคย เป็นที่ไว้วางใจของชาวบ้าน สอนวิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเองให้กับหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป เพื่อให้สามารถตรวจหาความผิดปกติได้และมารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้ จะมีการแสดงพลังของ อสม. อีกครั้ง ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2550 ในการรณรงค์ป้องกันโรคมะเร็งพร้อมกันทั่วประเทศ โดยตรวจมะเร็งเต้านมในผู้หญิง และให้ความรู้เรื่องมะเร็งตับและมะเร็งปอด ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชาย นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อไปว่า สำหรับปัญหาสุขภาพจิต จะเร่งสำรวจระดับความเครียดของคนไทย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่โรคซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย รวมทั้งเป็นปัจจัยเสริมให้โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงรุนแรงขึ้น โดยให้กรมสุขภาพจิต จัดทำแบบสำรวจความเครียดที่เป็นมาตรฐาน สำหรับให้ อสม.ใช้ตรวจคัดกรองประชาชนที่มีภาวะเสี่ยง และส่งเข้าสู่กระบวนการดูแลรักษาต่อไป คาดว่าจะใช้ได้ภายใน 6 เดือนนี้ นอกจากนี้ จะให้อสม. ทำแผนชุมชนด้านสุขภาพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเป็นแผนระยะยาว สามารถนำไปใช้ได้ทันที เมื่อได้รับงบประมาณจากรัฐบาล ***************************** 19 กันยายน 2550