วันนี้( 24 พฤศจิกายน 2559) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ. นนทบุรี นายแพทย์โสภณ  เมฆธน  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  พร้อมด้วย  นายแพทย์จักรธรรม  ธรรมศักดิ์ รองประธานมูลนิธิสถาบันพระบรมราชชนก  นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก  นายแพทย์พิเชษฐ์  บัญญัติ  นายกสภาการแพทย์แผนไทย ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน  “ แพทย์แผนไทย เทิดไท้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 ธันวาคม 2559 ณ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร พิษณุโลก


 
นายแพทย์โสภณ  เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการการแพทย์แผนไทยเข้ามาสู่ระบบบริการสุขภาพของภาครัฐ คนไทยทุกสิทธิการรักษาเข้าถึงบริการได้  เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ  ซึ่งการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเป็นหนึ่งงานในโครงการ “ทำดีที่สุด ถวายเป็นพระราชกุศล” โดยการน้อมนำการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรมาสู่การปฏิบัติ นำไปสู่การพึ่งตนเองทั้งในระดับประเทศ  ชุมชนและตนเอง อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนคนไทยมาโดยตลอด และพระราชกรณียกิจที่ทรงถือเป็นพระธุระเอาพระราชหฤทัยใส่นับตั้งแต่ต้นราชกาล คือพระราชกรณียกิจด้านแพทย์แผนไทย  ได้ทรงมีกระแสพระราชดำรัสของเมื่อครั้งเสด็จทรงปลูกต้นโพศรีมหาโพธิ  ณ สวนป่าสมุนไพรเขาหินซ้อน เมื่อวันที่ 21กรกฎาคม 2523 ความว่า  “ต้นไม้เป็นสมุนไพรทั้งสิ้น การเพาะชำ การปลูก และดูแลรักษา กรมป่าไม้ทราบดีรีบไปดำเนินการแทนกรรมการโครงการฯ พื้นที่ที่จะปลูกสมุนไพรตัวอย่างที่เพาะชำสมุนไพร ที่สร้างหลักศิลาจารึก และที่สร้างอาคารสำหรับศึกษาวิจัย จัดนิทรรศการ จัดการศึกษา ฝึกสอนอบรม นั้นให้มีพร้อมด้วย” นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ในการริเริ่มการพัฒนาสวนสมุนไพรในประเทศไทย เพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันสามารถพึ่งตนเองด้านสุขภาพได้ 

 
สำหรับการจัดงาน "แพทย์แผนไทย เทิดไท้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร" มีวัตถุประสงค์ เพื่อถวายสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  เนื่องในวโรกาสมหามงคลพระชนมายุครบ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘  รวมทั้งพระกรุณาธิคุณพระราชทานพระนาม “สิรินธร” ให้มาตั้งเป็นชื่อวิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร  รวมทั้งเพื่อประกาศเจตนารมณ์ของกระทรวงสาธารณสุขที่จะพัฒนางานการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรมีความก้าวหน้าเกิดประโยชน์ต่อประชาชนแล้ว 
 

 
กิจกรรมในงานประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรค บริการหัตถการทางการแพทย์แผนไทย จากแพทย์แผนไทยจากทั่วประเทศกว่า 3,000 คน เป็นครั้งแรกที่รวมตัวกันมากที่สุดเพื่อทำความดี ถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  มีการจัดแสดงสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรคที่พบบ่อย ซึ่งประชาชนสามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ แจกคู่มือการใช้สมุนไพร ชมสมุนไพรหายาก เช่น ชองระอาและแก้งขี้พระร่วง การจัดนิทรรศการความก้าวหน้าด้านการเรียนการสอนของแพทย์แผนไทย มีเวทีนำเสนอผลงานวิจัยด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร รวมทั้งนำนักศึกษาแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แนวทางการรักษาโรคตามหลักการแพทย์แผนไทย จากแพทย์พื้นบ้านรุ่นพ่อ รุ่นแม่ที่มีความเชี่ยวชาญ  
 

ด้านนายแพทย์จักรธรรม  ธรรมศักดิ์ รองประธานมูลนิธิสถาบันพระบรมราชชนก กล่าวถึงการจัดทำสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค ว่า ชาวสาธารณสุข  ได้ตระหนักถึงการน้อมนำศาสตร์พระราชามาสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะความมั่นคงทางสุขภาพที่เป็นภารกิจที่สำคัญของกระทรวงสาธารณสุข  ในงานนี้พระบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเป็นองค์ประธานในการเปิดสวนสมุนไพร 12 กลุ่มโรค เช่น  โรคระบบทางเดินหายใจ  โรคตา โรคผิวหนัง โรคระบบทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น  โดยในสวนสมุนไพรนอกจากจะมีต้นไม้  มีป้ายชื่อพฤกษศาสตร์ พร้อมป้ายสรรพคุณที่ถูกต้องแล้ว  ยังมีการเรียนรู้และการใช้สมุนไพร เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป นำสมุนไพรไปใช้ประโยชน์ทางด้านสุขภาพได้อย่างถูกต้อง 
 

นอกจากนี้ ภายในงาน มีการนำองค์ความรู้ด้านสมุนไพร การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มาเผยแพร่  ผ่านครู และนักศึกษาของวิทยาลัยต่างๆ  ในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก  ซึ่งผลิตบุคลากรทางด้านแพทย์แผนไทยในวิทยาลัย 5 แห่งได้แก่ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดพิษณุโลก  ยะลา และชลบุรี วิทยาลัยเทคโนโลยีกาญจนาภิเษก และวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร  เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาใช้บริการ และเรียนรู้นำไปใช้เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพในอนาคต โดยมีการเตรียมงานมากว่า 2 ปี  เพื่อนำศาสตร์ความรู้ทางการแพทย์แผนไทยออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะในรูปแบบที่เข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย

ประชาชนผู้สนใจสามารถไปร่วมงานงาน“ แพทย์แผนไทย เทิดไท้เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร”  ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 ธันวาคม 2559  เวลา 08.30น. – 20.00 น. ณ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิริธร จังหวัดพิษณุโลก 
 

##########
 


   
   


View 15    24/11/2559   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ