รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ชี้แจงนโยบายอบรมฟื้นฟูความรู้ อสม. รุ่น 2 จำนวน 3 แสนคน เน้นเติมความรู้สู้ภัยโรคมะเร็ง ซึ่งกำลังเป็นสาเหตุคนไทยตายอันดับ 1 ติดต่อกัน 8 ปีแล้ว คาดว่าปี 2551 จะพบผู้ป่วยรายใหม่ 1.2 แสนราย เฉพาะมะเร็งเต้านมในหญิงคาดพบมากถึง 12,000 คน ให้ อสม. สอนวิธีตรวจเต้านมด้วยตนเอง ไม่ต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญ ส่วนในผู้ชายเน้นแนะนำการป้องกันมะเร็งตับ มะเร็งปอด เตรียมจัดสัปดาห์รณรงค์ตรวจคัดกรองมะเร็งในผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไปพร้อมกันครั้งใหญ่ทั่วไทย ระหว่างวันที่ 25-30 พฤศจิกายน 2550 นี้ เช้าวันนี้ (5 ตุลาคม 2550) ที่โรงแรมจุลดิศเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์วัลลภ ไทยเหนือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ครูฝึก อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ทั่วประเทศกว่า 300 คน เพื่อชี้แจงนโยบายการอบรมพัฒนาศักยภาพ อสม.รุ่นที่ 2 ในปีงบประมาณ 2551 โดยจะเพิ่มเติมความรู้การคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป และโรคมะเร็งตับ ปอด ในผู้ชายด้วย นายแพทย์วัลลภ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2542 โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายของคนไทยสูงเป็นอันดับ 1 แซงโรคหัวใจหลอดเลือดและอุบัติเหตุ ในปี 2548 มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 50,622 ราย โดยพบผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่เพิ่มขึ้นปีละ 74,006 ราย เป็นเพศชาย 35,539 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 149 คนต่อประชากรแสนคน ส่วนเพศหญิงพบ 38,467 ราย อัตราป่วย 125 คนต่อประชากรแสนคน โดยในเพศหญิงพบมากที่สุดคือ มะเร็งปากมดลูก รองลงมา มะเร็งเต้านม และมะเร็งตับ ส่วนผู้ชายพบมะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก นายแพทย์วัลลภ กล่าวต่อว่า สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าในปี 2551 ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 120,000 คน โดยพบมากสุดคือมะเร็งตับ 20,000 คน รองลงมาเป็นมะเร็งปอด 15,000 คน และมะเร็งเต้านม 12,000 คน ทั้งนี้ โรคมะเร็งเต้านมซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของผู้หญิงทั่วโลก เป็นมะเร็งเพียงชนิดเดียวที่ผู้หญิงสามารถตรวจพบได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ และหากตรวจพบในระยะแรกๆ จะรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2551 จึงเดินหน้าโครงการพัฒนาศักยภาพ อสม. ต่อเนื่อง โดยเน้นหนักโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิง เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์ให้ความรู้และสอนวิธีเต้านมให้กับผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปทุกคน ให้สามารถตรวจหาความผิดปกติด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งให้ความรู้เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงของมะเร็งในผู้ชาย เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปอดด้วย ด้านนายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการศึกษาวิจัยพบว่า 2 ใน 3 ของสาเหตุการเกิดโรคมะเร็ง สัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสมและสิ่งแวดล้อม และประมาณ 1 ใน 3 ของโรคมะเร็งที่พบบ่อย สามารถป้องกันหรือรักษาหายขาดได้ หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกๆ แต่หากปล่อยให้โรคลุกลามแล้ว โอกาสรักษาให้หายขาดจะเป็นไปได้ยาก และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการรักษาอย่างมาก ผู้ป่วยต้องทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ การป้องกันและตรวจค้นหามะเร็งในระยะเริ่มแรกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยกระทรวงสาธารณสุขจะจัดสัปดาห์รณรงค์ตรวจคัดกรองมะเร็งกลุ่มประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไปพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 25-30 พฤศจิกายน 2550 นี้ เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชนเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงสาธารณสุขไทย ด้านนายแพทย์ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขไทยได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ว่าเป็นพลังประชาชนที่สำคัญ และช่วยให้งานสาธารณสุขในพื้นที่ประสบความสำเร็จหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนก ไข้เลือดออก ล่าสุดคือการรณรงค์วัดความดันโลหิตคนไทยที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 2-8 กันยายนที่ผ่านมา จำนวนกว่า 21 ล้านคนหรือร้อยละ 82 ของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้พบผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงถึง 2,477,784 คน หรือร้อยละ 11 นอกจากนี้ ยังพบภาวะอ้วนอีกเกือบร้อยละ 7 และน้ำหนักเกินร้อยละ 21 นำไปสู่การรักษาและวางแผนดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลงานของประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกในโลกที่ดำเนินการสำเร็จ และรู้ขนาดปัญหาจริง สามารถวางแผนป้องกันในอนาคตได้ สำหรับการอบรมพัฒนาศักยภาพ อสม.ในปีงบประมาณ 2551 มีเป้าหมาย 300,000 คน โดยคัดเลือก อสม.ที่มีความสามารถโดดเด่นหมู่บ้านละ 3-5 คน เข้ารับการอบรม โดยมีกรมด้านวิชาการ เช่น กรมการแพทย์ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค เป็นแกนหลักในการเสริมความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับโรคที่เป็นปัญหา คาดว่าจะจัดอบรมได้ในกลางเดือนตุลาคม 2550 และครบจำนวนตามเป้าหมายภายในเดือนพฤศจิกายน 2550 นี้ *********************************** 5 ตุลาคม 2550


   
   


View 6    05/10/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ