โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เตือนผู้กินเจในเทศกาลถือศีลกินเจ ขอให้กินให้ถูก กินให้เป็น อย่ากินตามแฟชั่น ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เนื่องจากผลสำรวจพบอาหารเจในท้องตลาดกว่าร้อยละ 80 ใช้วิธีทอด ผัดน้ำมัน รสหนักเค็ม แนะควรเลี่ยงอาหารเจเลียนแบบเนื้อสัตว์ เพราะล้วนอุดมด้วยแป้ง นายสง่า ดามาพงษ์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในเทศกาลถือศีลกินเจ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 10-19 ตุลาคม 2550 นั้น นับเป็นปีพิเศษสุดกว่าปีใดๆ ของพสกนิกรชาวไทย เพราะเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนพรรษาครบ 80 พรรษา จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่ประสงค์จะถือศีลกินเจ มาร่วมทำคุณงามความดีให้กับตัวเองและต่อผู้อื่น เพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่พระองค์ เพราะแก่นแท้ของเทศกาลนี้ คือ “การถือศีลกินเจ” ไม่ใช่ “กินเจ” อย่างเดียว คำว่า “เจ” มาจากคำว่า “ไจ” ในภาษาจีนที่แปลว่า ไม่มีของคาว หรือไม่มีเนื้อสัตว์ นั่นหมายถึงการละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องกุศล แต่ยังไม่พอ เทศกาลนี้ยังเป็นการให้คนหันมาทำความดี รักษาศีล ละเว้นอบายมุข และมีจิตใจที่ดีไม่กล่าวร้ายผู้อื่น นายสง่า กล่าวต่อว่า การถือศีลกินเจของคนไทยในปัจจุบันมักจะกินตามแฟชั่น ยังไม่เข้าใจแก่นแท้หรือหลักปฏิบัติที่ถูกต้อง จึงกินแบบผิดๆ ถูกๆ และกินเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การมุ่งทำความดี หลายคนเข้าใจว่าเป็นเทศกาลแห่งการกินผักอย่างเดียว จึงก้มหน้าก้มตากินแต่ผัก โดยไม่ได้คำนึงการกินอาหารอื่นให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะหมู่อาหารที่ให้สารโปรตีน ซึ่งมีความจำเป็นในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ให้ร่างกายเจริญเติบโตและสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย มีในเนื้อสัตว์มากกว่าในพืช ซึ่งในช่วงเทศกาลเจจึงจะต้องกินให้เพียงพอ โดยในอาหารเจที่กิน จะต้องปรุงด้วยถั่วเมล็ดแห้งและถั่วแปรรูป เช่น เต้าหู้ โปรตีนเกษตร ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีคุณค่าเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์เมื่อกินกับข้าว ส่วนอาหารที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ในรูปแบบต่างๆ เช่น ขาหมู เป็ดย่าง ไส้กรอกหมู ส่วนมากทำมาจากแป้ง ซึ่งให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรท มีโปรตีนน้อย กินมากมีแต่อ้วนกับอ้วน นายสง่า กล่าวต่อไปว่า คนที่ขาดความรู้เรื่องการกินอาหารให้ถูกหลักโภชนาการในช่วงกินเจ ระวังน้ำหนักจะเพิ่ม พุงจะยื่น เพราะจากการสำรวจอาหารเจที่ขายในตลาด พบว่าประมาณร้อยละ 80 จะปรุงด้วยวิธี ทอด และผัด โดยเฉพาะทอดน้ำมันลอย และผัดที่ใช้น้ำมันเยิ้มๆ แฉะๆ ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าเป็นน้ำมันพืช ไม่มีโคเลสเตอรอล จึงกินได้มากไม่ทำให้อ้วน ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด น้ำมันพืชแม้ว่าไม่มีโคเลสเตอรอล กินมากก็อ้วน เพราะจัดอยู่ในกลุ่มของไขมัน ที่ร่างกายสะสมได้ ดังนั้นควรกินอาหารเจให้หลากหลายชนิด เน้นอาหารต้ม นึ่ง ย่าง ยำ สิ่งที่ต้องย้ำเตือนอีกเรื่องคือ อาหารเจมักมีรสเค็มเพราะปรุงด้วยซอส ซีอิ้ว เต้าเจี้ยว เกลือ ซึ่งล้วนเป็นเครื่องปรุงรสที่ให้ความเค็มและมีโซเดียมสูง การกินเค็มจัด ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้ อย่างไรก็ดี เนื่องจากเมนูอาหารเจ มีพืชผักเป็นส่วนประกอบหลัก จึงขอให้ผู้ปรุงอาหารและผู้กินเจ ใช้ความระมัดระวังในการปรุงและกินอาหารเจ ไม่เช่นนั้นผู้กินจะได้รับสารปนเปื้อนและเชื้อโรคที่ติดมากับพืชผักแบบเต็มๆ ขอให้ผู้ปรุงอาหารเจจำหน่าย ร่วมกันทำบุญสร้างกุศลให้กับเพื่อนมนุษย์ โดยการใส่ใจล้างพืชผักให้สะอาด ใช้เครื่องปรุง ภาชนะที่สะอาดปลอดภัย ปกปิดภาชนะบรรจุอาหารป้องกันฝุ่นและแมลงไต่ตอม ตลอดจนคนปรุงมี สุขนิสัยส่วนบุคคลที่ดีในเทศกาลถือศีลกินเจ มีหลายคนที่ใช้โอกาสเป็นจุดเริ่มต้นในการทำความดี สร้างสิ่งเป็นมงคลให้กับชีวิตเพราะการถือศีลกินเจ จะทำให้สุขภาพกายและสุขภาพจิตดีไปด้วย โฆษกกล่าวตอนท้าย ****************************** 8 ตุลาคม 2550


   
   


View 8    08/10/2550   ข่าวเพื่อมวลชน    สำนักสารนิเทศ