กระทรวงสาธารณสุข หวั่นครัวไทยสูญพันธุ์ คนแก่ไร้ที่พึ่ง มีเด็กกำพร้าเอดส์เพิ่ม หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในปี 2549 ร้อยละ 50 เป็นพ่อบ้านแม่บ้าน มีประมาณ 7,000 ราย ชี้ผลสำรวจการใช้ถุงยางอนามัยคนไทยในช่วง 2 ปีนี้ พบชายหญิงร้อยละ 87 เมินถุงยางขณะมีเซ็กซ์กับคนรู้จักผิวเผิน จัดรณรงค์สร้างสายสัมพันธ์รักครอบครัวเหนียวแน่น หวังดันเอดส์ออกไกลครัวเรือน และลดปัญหาเชื้อดื้อยาจากการผสมของเชื้อเอดส์ต่างสายพันธุ์
บ่ายวันนี้ (10 ตุลาคม 2550) ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และแพทย์หญิงพัชรา ศิริวงศ์รังสรร ร่วมกันแถลงข่าว การจัดงานรณรงค์สายสัมพันธ์รักครอบครัวไทยห่างไกลเอดส์ ที่สวนสัตว์ดุสิต ในบ่ายวันเสาร์ที่ 13ตุลาคม 2550 ที่จะถึงนี้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอดส์ในครอบครัว
นายแพทย์ธวัช กล่าวว่า การรณรงค์เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ของประเทศไทย ที่ผ่านมาแม้จะประสบผลสำเร็จ สามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลง 10 เท่า จาก 140,000 รายในปี 2530 เหลือ 14,000 รายในปี 2550 แต่ช่วง 4-5 ปีมานี้ เริ่มมีสัญญาณแสดงว่าปัญหาโรคเอดส์อาจจะกลับมารุนแรงขึ้นได้อีก เนื่องจากพบการระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเยาวชนเพิ่มขึ้น รวมทั้งการติดเชื้อเอดส์เพิ่มขึ้นในกลุ่มชายรักชายในกทม. และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุน้อย ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ พบว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ในปี 2549 ส่วนใหญ่ร้อยละ 40 เป็นการติดเชื้อจากสามีสู่ภรรยา รองลงมาติดเชื้อจากกลุ่มชายรักชาย ร้อยละ 22 ติดเชื้อจากหญิงขายบริการ ร้อยละ 11 ติดเชื้อจากภรรยาสู่สามี ร้อยละ 10 และติดเชื้อจากเพศสัมพันธ์นอกคู่สมรส ร้อยละ 7 จากสถิติที่กล่าวมา พอสรุปได้ว่า ในปี 2549 มีคู่สามีภรรยาที่ติดเชื้อเอดส์แล้ว 7,000 ราย
นอกจากนี้ การเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอดส์ของคนไทย ในปี 2548 ยังพบว่าอัตราการใช้ถุงยางอนามัยกับคู่นอนประเภทต่างๆ อยู่ในระดับต่ำมากคือร้อยละ 44-52 และพบว่าชายร้อยละ 20 และหญิงร้อยละ 5 มีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามที่รู้จักผิวเผิน โดยใช้ถุงยางอนามัยต่ำมากเพียงร้อยละ 13 ทั้งที่ถุงยางอนามัยนอกจากช่วยป้องกันการติดเชื้อเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ แล้ว ยังช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ต้องการได้ด้วย
นายแพทย์ธวัช กล่าวต่อว่า ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า โรคเอดส์กำลังคุกคามถึงสถาบันครอบครัวไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคม และกระทบถึงความมั่นคงของประเทศชาติได้ในอนาคต จำนวนครอบครัวไทยอาจลดลง มีผลกระทบต่อผู้สูงอายุที่จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 ในอีก 15 ปีข้างหน้า ทำให้ผู้สูงอายุขาดที่พึ่งพิง และจะมีเด็กกำพร้าพ่อแม่จากโรคเอดส์มากขึ้น ที่สำคัญจะเกิดปัญหาเชื้อดื้อยา เพราะมีการติดเชื้อซ้ำ ทำให้เชื้อเอดส์ผสมข้ามสายพันธุ์กัน เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีก ทั้งนี้ ตามแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ปี 2550-2554 มีเป้าหมายที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้ได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งภายในปี 2554 หรือประมาณ 7,000 ราย กระทรวงสาธารณสุขจึงมุ่งป้องกันการติดเชื้อเอดส์ในครอบครัว โดยเริ่มจากการรณรงค์ให้สามีภรรยาหรือคู่รัก ตระหนักถึงการป้องกันการติดเชื้อเอดส์จากการมีเพศสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้ถุงยางอนามัยอย่างเหมาะสม รวมทั้งชี้ให้เห็นความเสี่ยงและความสำคัญ ในการป้องกันการรับ/แพร่เชื้อเอดส์ภายในครอบครัว ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการปรับทัศนคติและพฤติกรรมเสี่ยงติดเชื้อเอดส์ครอบคลุมประชาชนยิ่งขึ้น
นายแพทย์สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2527 จนถึง 30 กันยายน 2550 ไทยมีผู้ป่วยเอดส์สะสมทั้งสิ้น 321,650 ราย ยังมีชีวิตอยู่ 231,596 ราย การดูแลสุขภาพของผู้ป่วย/ผู้ติดเชื้อเอดส์ที่ผ่านมา สถานพยาบาลมักเน้นหนักในด้านการดูแลรักษา เช่น การให้ยาต้านไวรัส การรักษาโรคติดเชื้อฉวยโอกาสและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ แต่จากนี้ไปจะเพิ่มบริการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพผู้ติดเชื้อควบคู่ไปด้วย เพื่อไม่ให้รับหรือถ่ายทอดเชื้อเอดส์เพิ่มให้ตนเองหรือคู่นอน โดยแจกถุงยางอนามัยให้ผู้ติดเชื้อที่รับยาต้านไวรัส รายละ 10 ชิ้นต่อเดือน ส่วนผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการป่วยหรือผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงติดเชื้อ จะส่งเสริมให้เข้าถึงบริการตรวจหาเชื้อเอดส์ การให้คำปรึกษาแบบสมัครใจ การแจ้งข่าวให้คู่ของผู้ติดเชื้อเข้ารับการตรวจ การให้ความรู้ และส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัย โดยแจกให้รายละ 10 ชิ้นเมื่อมารับบริการ และให้แกนนำผู้ติดเชื้อหรือองค์กรเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดบริการ เพื่อให้ครอบคลุมผู้ติดเชื้อมากที่สุด รวมทั้งมีการส่งต่อผู้ติดเชื้อให้ได้รับบริการอย่างเป็นระบบ
ด้านแพทย์หญิงพัชรา ศิริวงศ์รังสรร ผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์ วัณโรคและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงานสายสัมพันธ์รักครอบครัวไทยห่างไกลเอดส์ ในวันเสาร์ที่ 13 ตุลาคมนี้ เวลา 13.00-17.00 น. ณ สวนสัตว์ดุสิต (เขาดินวนา) จะใช้กิจกรรมวอล์คแรลลี่ เป็นสื่อในการเสริมสร้างความรัก ความอบอุ่นระหว่างสามีภรรยาหรือคู่รัก โดยมีคู่สามีภรรยาหรือคู่รักประมาณ 100 คู่ และคู่รักดารา อาทิ คุณปภัสรา-คุณพรเทพ เตชะไพบูลย์ คุณพิมลวรรณ-คุณชัชพงษ์ หุ่นทองคำ และครอบครัวคุณกมลา กำภู ณ อยุธยา เข้าร่วมกิจกรรมผ่านฐานความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของคู่สามีภรรยาหรือคู่รัก เพื่อแก้ไขปัญหาให้สำเร็จภายใต้เงื่อนไขและเวลาที่กำหนด เช่นเดียวกับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ในครอบครัว พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมสร้างความรู้ควบคู่กับความบันเทิง จากกลุ่มละครดอกไม้แห่งความบันเทิง ทีมพิธีกรรายการ 30 ยังแจ๋ว และมินิคอนเสิร์ตจาก สินเจริญบราเธอร์ รวมทั้งการเผยแพร่ความรู้ผ่านทางรายการ 30 ยังแจ๋ว ในวันที่ 11 ตุลาคม 2550 เวลา 10.20-10.50 น. และรายการ 30 Hi Weekend By Kob ในวันที่ 21 ตุลาคม 2550 เวลา 09.50-10.00 น. ด้วย
*********************************** 10 ตุลาคม 2550
View 11
10/10/2550
ข่าวเพื่อมวลชน
สำนักสารนิเทศ