สธ. เตือนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ระวังน้ำกระเด็นเข้าตาเสี่ยงโรคตาแดง ขณะนี้พบแล้ว 2 จังหวัด

โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม หลีกเลี่ยงอย่าลงเล่นน้ำที่ท่วมขัง ระวังอย่าให้น้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา เนื่องจากเสี่ยงเกิดโรคตาแดง ขณะนี้พบป่วยแล้ว 30 ราย ยังไม่มีการระบาดเพิ่ม แนะการป้องกันขอให้ประชาชนล้างมือให้สะอาด ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วยตาแดง หากน้ำสกปรกเข้าตาควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และหน่วยรักษาพยาบาลเคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนฟรีทุกวัน เช่น ในจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์และขอนแก่น จังหวัดละไม่ต่ำกว่า 30 หน่วยต่อวัน มีประชาชนเจ็บป่วยรับบริการวันละกว่า 1,000 ราย พบมากที่สุดคือเป็นหวัดร้อยละ 20 รองลงมาได้แก่ ผื่นคันผิวหนังร้อยละ 19 ที่เหลือเป็นโรคน้ำกัดเท้า และพบประชาชนมีความเครียด นอนไม่หลับ ปวดศีรษะจำนวน 797 ราย แต่อาการไม่รุนแรง หน่วยแพทย์ได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด นายแพทย์สุพรรณ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของโรคติดต่อที่มากับน้ำท่วม ขณะนี้เริ่มมีรายงานผู้ป่วยโรคตาแดง ซึ่งเกิดจากน้ำสกปรกเข้าตา พบแล้ว 30 ราย คือที่พิจิตร 5 ราย เพชรบูรณ์ 25 ราย พบทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หน่วยเฝ้าระวังควบคุมโรค สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ยังไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม ในการป้องกันโรคตาแดง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็กๆ อย่าลงเล่นน้ำที่ท่วม เนื่องจากน้ำท่วมจะมีความสกปรกสูง มีเชื้อโรคที่มาจากสิ่งปฏิกูลต่างๆ ปะปนมาจำนวนมาก เมื่อน้ำเหล่านี้กระเด็นเข้าตาจะทำให้เยื่อบุตาอักเสบ ทำให้ตาแดง ปวดแสบตา น้ำตาไหลมาก หากน้ำสกปรกเข้าตาควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด ระวังอย่าให้แมลงหวี่แมลงวันตอมตา และไม่ควรใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วยตาแดง เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว และควรล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดบ่อยๆ ซึ่งจะสามารถลดการติดเชื้อได้ร้อยละ 90 เนื่องจากโรคนี้ ไม่ติดต่อทางการสบสายตาอย่างที่มีประชาชนบางกลุ่มเชื่อ แต่ติดต่อกันโดยตรงจากการสัมผัสขี้ตาของผู้ป่วยที่ติดมากับนิ้วมือ ทั้งนี้ หากประชาชนมีอาการเจ็บตา ตาแดง มีขี้ตามาก ควรรีบไปพบแพทย์ในหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ หรือสถานีอนามัยที่อยู่ใกล้ทันที ไม่ควรซื้อยามาหยอดตารักษาเอง เนื่องจากอาจไม่ได้ผลและอาจทำให้การอักเสบรุนแรงมากขึ้น นายแพทย์สุพรรณกล่าว ********************************** 11 ตุลาคม 2550