กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย จัดประชุมวิชาการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ และพัฒนาศักยภาพผู้ดูแลสุขภาพผู้เดินทางไปแสวงบุญ อาทิ แพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่ อสม. ผู้นำกลุ่มแซะห์ ให้ผู้แสวงบุญมีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรงพร้อมปฏิบัติศาสนกิจ
วันนี้ (5 กรกฎาคม 2560) ที่โรงแรมอัลมีรอช กทม. นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุมวิชาการ “ ฮัจย์ฟอรั่ม (Hajj Forum)อดีต ปัจจุบัน อนาคตกับความท้าทายด้านสุขภาพสู่ฮัจย์ที่สมบูรณ์” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ และพัฒนาศักยภาพผู้รับผิดชอบงานการดูแลสุขภาพผู้เดินทางไปแสวงบุญ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย บุคลากรสาธารณสุข จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ เจ้าหน้าที่สำนักงานแพทย์ฯ ผู้นำกลุ่มแซะห์ กว่า 500คน
นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจึงให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะห์ ซึ่งเป็นพิธีหนึ่งในศาสนกิจที่สำคัญของชาวมุสลิม ในแต่ละปีจะมีชาวไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ประมาณ 13,000 คน เป็นชาวไทยมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เฉลี่ย 9,000 -10,000 คนต่อปี ซึ่งผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์จะต้องเตรียมความพร้อม ทั้งความรู้ในการประกอบพิธีฮัจย์ ความพร้อมทางร่างกายและสุขภาพ ได้จัดระบบการดูแลสุขภาพให้กับผู้แสวงบุญ ทั้งก่อนการเดินทาง ระหว่างประกอบศาสนกิจ และหลังจากการประกอบพิธีฮัจย์และอุมเราะห์ โดยจัดแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่ ไปปฏิบัติงานที่สำนักการแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมมีสุขภาพที่สมบูรณ์ แข็งแรง ดังคำกล่าวที่ว่า สุขภาพที่แข็งแรง เพื่อฮัจย์ที่สมบูรณ์ “Health Empower HAJJ”
ด้านนายแพทย์วิรุฬห์ พรพัฒน์กุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และหัวหน้าสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า รายงานจากสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย พบว่าผู้ที่เดินทางไปฮัจย์มีภาวะเจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก และบางรายต้องเสียชีวิตในทุกปี กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักงานเขตสุขภาพที่ 12 ศูนย์การพัฒนาสุขภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศบ.สต.) และหลายหน่วยงาน ร่วมกันดำเนินการส่งเสริมสุขภาพแก่ชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตระหว่างประกอบพิธีฮัจย์ ลดลงจาก 50 คนในปี 2550 เหลือเพียง 8 รายในปี 2559 ดังนั้น สำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย จึงได้จัดประชุมวิชาการขึ้น เพื่อให้ผู้มีเกี่ยวข้องได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการดูแลสุขภาพผู้ไปแสวงบุญ เกิดกระบวนการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น
สำหรับประเด็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการประชุมมีดังนี้ 1.การบริหารจัดการหน่วยพยาบาลไทย 2.บทบาทของผู้ประกอบการและอาสาสมัครสาธารณสุขฮัจย์ 3.อุมเราะห์และความคาดหวังในอนาคต 4.การดูแลสุขภาพผู้แสวงบุญในพื้นที่ 5.การควบคุมโรคและการป้องกันโรค โดยวิทยากรได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมควบคุมโรค กรมการปกครอง ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย และนายกสมาคมฮัจย์แห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ สำนักจุฬาราชมนตรี ได้มอบโล่ห์ประกาศเกียรติคุณ ให้แก่ นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้ที่มีผลงานดีเด่นและทำคุณประโยชน์ในการพัฒนาระบบการจัดการสุขภาพผู้เดินทางไปแสวงบุญ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ทั้งการป้องกัน เฝ้าระวัง ดูแลรักษา และมีการติดตามดูแลสุขภาพผู้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย รวมถึงผลักดันให้มีการขยายการดูแลสุขภาพไปยังผู้ไปประกอบพิธีอุมเลาะห์ ซึ่งเริ่มอย่างเป็นรูปธรรมเป็นปีแรกในปี พ.ศ. 2560 นี้ โดยมีนายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้แทนรับมอบโล่ห์ประกาศเกียรติคุณดังกล่าว
********************************* 5 กรกฎาคม 2560