กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มอบ 3 ข้อสั่งการ โดยเฉพาะ 3 ศูนย์อนามัย เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ เตรียมพร้อมรับมือ และสนับสนุนทีมในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 – 3 เฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่น PM2.5
และช่วยเหลือประชาชนให้ปฏิบัติตนตามระดับค่าสี พร้อมสั่งปิดศูนย์ปฏิบัติการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม รองรับภาวะฉุกเฉินกรมอนามัย (HPEHOC) โดยมอบหมายให้เป็นภารกิจปกติ

           วานนี้ (20 กุมภาพันธ์ 2568) แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์และคาดการณ์ฝุ่น PM2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 20 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่ามีสถานการณ์ดีขึ้นในหลายพื้นที่ แต่ยังอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) จำนวน 17 จังหวัดและระดับปานกลาง (สีเหลือง) จำนวน 32 จังหวัด ขณะเดียวกันสถานการณ์จุดความร้อนและอัตราการระบายอากาศ ช่วงวันที่ 20 – 26 กุมภาพันธ์ 2568 จุดความร้อนในประเทศลดลง แต่จุดความร้อนในต่างประเทศสูง อัตราการระบายอากาศดี การสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ลดลงในระดับดี – ปานกลาง เน้นย้ำให้ศูนย์อนามัยที่ 1 - 12 และ สสม. ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อย่างต่อเนื่อง ผลการดำเนินงาน พบว่า กรมอนามัยได้ลงพื้นที่สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการรับมือและดูแลสุขภาพ   ตนเองจากฝุ่น PM2.5 รวมทั้ง สนับสนุนให้ทุกหน่วยงานสร้างห้องปลอดฝุ่น และมอบมุ้งสู้ฝุ่น ส่งผลให้ขณะนี้ มีห้องปลอดฝุ่น จำนวน 15,758 ห้อง ใน 71 จังหวัด และมอบมุ้งสู้ฝุ่น 1,363 ชุด รวมทั้ง เร่งให้ทุกหน่วยงานนำรถยนต์ของทางราชการไปตรวจวัดควันดำ และตรวจเครื่องยนต์ตามมาตรฐาน จากการคาดการณ์ในพื้นที่ภาคเหนือมีแนวโน้มฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐานต่อเนื่อง เนื่องจากแนวโน้มจุดความร้อนในพื้นที่เริ่มสูงขึ้น และอัตราการระบายอากาศต่ำ ในช่วงวันที่ 26 – 27 กุมภาพันธ์ 2568 ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือเตรียมเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และปฏิบัติตนตามระดับ ค่าสี PM2.5 โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ บุคคลทั่วไป และกลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยยึดหลัก 5 ข้อ คือ เช็ก เช็กค่าฝุ่นจากแอฟพลิเคชั่น Air4Thai หรือ Life Dee ใช้ ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองทุกครั้ง เช่น หน้ากาก N95 เลี่ยง เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและเฝ้าระวังสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ลด ลดกิจกรรมก่อฝุ่น เช่น การจุดธูป การปิ้งย่าง การเผา การสูบบุหรี่ การใช้รถส่วนตัว รวมถึงตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำ และปิด ปิดประตู-หน้าต่าง ให้มิดชิด หมั่นทำความสะอาดบ้าน ที่พัก หรือทำห้องปลอดฝุ่น

           นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย ยังได้สั่งการให้ทีม SEhRT ศูนย์อนามัยทั่วประเทศ ปฏิบัติการ 3 ข้อสั่งการ ดังนี้ 1) สนับสนุนการใช้มาตรการตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขในการควบคุมเหตุรำคาญ กรณี การลักลอบเผาในที่โล่งแจ้ง หรือเผาพื้นที่การเกษตร ตลอดจนกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นในพื้นที่ ร่วมกับ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี 2) ยกระดับคลินิกมลพิษออนไลน์ของศูนย์อนามัย เพื่อรองรับการให้บริการสุขภาพ กรณีมลพิษที่มาจากปัญหาอนามัยสิ่งแวดล้อมอื่นตามบริบทของพื้นที่
3) ปิดศูนย์ปฏิบัติการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม รองรับภาวะฉุกเฉินกรมอนามัย (HPEHOC)
ของส่วนกลาง  ให้ถือเป็นภารกิจการปฏิบัติงานปกติและศูนย์อนามัยยังต้องปฏิบัติงานในพื้นที่ ร่วมกับทุกหน่วยงานอย่างเข้มข้น ซึ่งประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลสุขภาพได้ที่ สายด่วน 1478 เช่นเดิม

 

                           ***                        

กรมอนามัย / 21 กุมภาพันธ์ 2568



   
   


View 46    21/02/2568   ข่าวในรั้ว สธ.    กรมอนามัย